|
การทำเลสิกคือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง โดยใช้เลเซอร์ปรับรูปทรงกระจกตาให้แสงตกกระทบจุดรับภาพอย่างแม่นยำ ก่อนทำเลสิกควรเตรียมตัวให้พร้อมและตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจะทำเลสิกที่ไหนดี เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เลสิก(LASIK) หรือ Laser in Situ Keratomileusis เป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง โดยใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสั้นในระดับอัลตราไวโอเลต มีคุณสมบัติเฉพาะที่ทำปฏิกิริยากับพื้นผิวที่สัมผัสโดยตรง โดยไม่กระจายออกด้านข้างหรือทะลุผ่านเข้าไปในลูกตา จึงมีความปลอดภัยและแม่นยำสูง
หากคุณสงสัยว่าควรเตรียมตัวก่อนทำเลสิกอย่างไร และเลสิกมีกี่แบบ คำตอบคือเลสิกแบ่งออกเป็น 7 แบบ ดังนี้
Photorefractive Keratectomyวิธีนี้ไม่แยกชั้นกระจกตา แต่ลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออกก่อน จากนั้นใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ปรับความโค้งของกระจกตา และปิดกระจกตาด้วยคอนแท็กต์เลนส์เพื่อช่วยลดอาการระคายเคือง
MicrokeratomeLASIKเทคนิคนี้ใช้ใบมีดขนาดเล็กเปิดฝากระจกตา จากนั้นใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ ปรับความโค้งของกระจกตาให้ได้ค่าสายตาที่ต้องการ แล้วปิดกระจกตากลับเข้าที่
Bladeless FemtoLASIKเทคนิคนี้ใช้เลเซอร์ Femtosecond Laser ในการเปิดฝากระจกตา และปรับความโค้งด้วยเอ็กไซเมอร์เลเซอร์โดยไม่ต้องใช้ใบมีด ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัยมากกว่าแบบใช้ใบมีด
ReLEx SMILEเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูง ไม่ต้องเปิดฝากระจกตา แต่ใช้เลเซอร์ตัดเนื้อกระจกตาเป็นชิ้นเลนส์ แล้วดึงออกผ่านแผลเล็กเพียง 2-4 มม. ซึ่งช่วยลดการรบกวนกระจกตา
NanoLASIKเป็นการรักษาสายตาด้วยเลเซอร์ทุกขั้นตอน แยกชั้นกระจกตาด้วย Femtosecond Laser ไม่ใช้ใบมีด ปลอดภัย แม่นยำ เจ็บน้อย
NanoRelexใช้ Femtosecond Laser สร้างแผลขนาด 2-3 มม. เพื่อนำชิ้นเนื้อ Lenticule ออก ใช้เวลาผ่าตัดน้อย หลังผ่าตัดช่วยลดอาการตาแห้ง แผลเล็กและกระจกตายังคงแข็งแรง
SMILE Proคือเทคโนโลยี Femtosecond Laser รุ่นล่าสุด Visumax 800 โดยสร้างแผ่นเลนส์ติคูล (Lenticule) ใน 8-10 วินาที แล้วนำออกผ่านแผลขนาดเล็ก 2-4 มม. แล้วปรับรูปร่างกระจกตาให้แสงตกยังจอประสาทตาพอดี
ก่อนตัดสินใจทำเลสิก ควรทราบว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้ ซึ่งผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยเลสิกควรมีอายุอย่างน้อย 18 ปี ค่าสายตาคงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลงมากกว่า 50 (0.5D) อย่างน้อย 1 ปี รวมถึงควรเตรียมตัวก่อนทำเลสิก โดยมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์ จึงจะสามารถทำเลสิกได้อย่างเหมาะสม
กลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการทำเลสิก เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ของการรักษา ได้แก่
ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ยกเว้นในกรณีที่ต้องการไปสอบเตรียมทหารหรือตำรวจ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคกลุ่มรูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี (SLE) สะเก็ดเงิน หรือ HIV
ผู้ที่เป็นโรคทางจักษุ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
ผู้ที่เป็นโรคจิตเวชหรือมีภาวะเจ็บป่วยทางจิตที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์
ข้อดีที่คนมีปัญหาทางสายตาควรพิจารณาผ่าตัดการทำเลสิก เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น
ขณะทำการผ่าตัด มีเพียงการหยอดยาชาที่ตา ไม่มีการเย็บแผล จึงไม่รู้สึกเจ็บ
ใช้เวลาในการผ่าตัดและการพักฟื้นน้อย แผลสามารถหายได้เร็ว
หลังจากผ่าตัด สามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล
เลสิกสามารถแก้ไขปัญหาความผิดปกติของสายตาให้กลับมามองเห็นชัดเจนได้อย่างถาวร
ชีวิตหลังทำเลสิกมองเห็นชัดเจนขึ้น ไม่ต้องใส่แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์
มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ทำกิจกรรมต่างๆ งานอดิเรก และเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาทางน้ำและกีฬากลางแจ้ง ได้โดยไม่ต้องกังวล
เมื่อความสามารถในการมองเห็นกลับมาชัดเจน โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายต่างๆ จะลดลง
ก่อนที่จะตัดสินใจทำเลสิก ควรรู้ข้อจำกัดต่างๆ ที่อาจมีผลต่อผลลัพธ์หลังผ่าตัด เพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจในขอบเขตของการรักษา ดังนี้
ผลข้างเคียงจากการทำเลสิกที่อาจเกิดขึ้นได้
ราคาค่าทำเลสิกค่อนข้างสูง
หลังทำเลสิก อาจมีอาการตาแห้งในบางราย จำเป็นต้องดูแลตามคำแนะนำของแพทย์
เพื่อให้การทำเลสิกเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ควรเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ดังนี้
เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่รองรับการทำเลสิกหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการได้ รวมถึงพิจารณาถึงคุณภาพ มาตรฐาน และฝีมือของจักษุแพทย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกสถานที่เข้ารับบริการ
เมื่อเลือกสถานที่แล้ว ให้ทำการนัดหมายเพื่อเข้าพบแพทย์ เพื่อปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น ตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด และเลือกวิธีการทำเลสิกที่เหมาะสม รวมถึงวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ก่อนเข้ารับการตรวจเพื่อทำเลสิก ควรมีการเตรียมตัวเบื้องต้น ดังนี้
หากใส่คอนแท็กต์เลนส์ชนิดนิ่ม ควรถอดออกก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 3 วัน และหากใส่คอนแท็กต์เลนส์ชนิดแข็ง ควรถอดออกก่อนอย่างน้อย 7 วัน
หากใช้ยาใดๆ เป็นประจำ ควรแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบ
ในวันที่มีการตรวจสายตา ควรเตรียมแว่นกันแดดและพาผู้ดูแลมาด้วย เนื่องจากในวันนั้นจะมีการใช้ยาหยอดขยายม่านตา ซึ่งทำให้ตาพร่ามัวและไม่สามารถรับแสงได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
การเตรียมตัวก่อนทำเลสิกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตนเองให้พร้อม ดังนี้
งดใช้น้ำหอม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงต่างๆ บริเวณรอบดวงตาก่อนวันผ่าตัด
งดการทำผม เช่น การใส่น้ำมันบำรุงผม เจลใส่ผม หรือใช้เครื่องประดับใดๆ
งดดื่มชาหรือกาแฟก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ดูแลและสังเกตร่างกายตนเอง หากพบความผิดปกติ เช่น ตาแดง ไม่สบาย เกิดการเจ็บป่วย เป็นต้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัด
พกแว่นตากันแดดเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงหลังการผ่าตัด
สิ่งที่สำคัญกว่าการเตรียมตัวก่อนทำเลสิก คือการเลือกว่าจะทำเลสิกที่ไหนดี? โดยวิธีเลือกโรงพยาบาลสำหรับทำเลสิก เพื่อให้ได้การรักษาที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้
มีความเป็นมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
สถานที่ต้องมีความน่าเชื่อถือในแง่ของการประสานงานและดำเนินการต่างๆ โดยมีความเป็นมืออาชีพ
อุปกรณ์ครบครันและทันสมัย โดยเฉพาะในด้านการใช้เทคโนโลยีในการดูแลรักษาและผ่าตัด
จักษุแพทย์ควรมีประสบการณ์ และมีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง
มีบริการหลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับผู้รับบริการ
ได้รับคุณภาพและการบริการที่ดี คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
ก่อนทำเลสิกควรเตรียมตัวและรู้ข้อดี เช่น การมองเห็นที่ชัดเจนถาวร ลดการพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ ชีวิตหลังทำเลสิกจะมีความคล่องตัวมากขึ้นเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ข้อจำกัดคือไม่สามารถทำได้สำหรับบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ที่มีโรคเบาหวาน สะเก็ดเงิน หรือโรคต้อหิน ควรงดใส่คอนแท็กต์เลนส์ก่อนการตรวจและผ่าตัด รวมถึงงดน้ำหอมและเครื่องสำอางก่อนวันผ่าตัด การเตรียมตัวต้องปรึกษาแพทย์ และเตรียมแว่นกันแดดไว้ใส่หลังผ่าตัด
สำหรับคนที่ต้องการทำเลสิก สามารถมาได้ที่ศูนย์เลเซอร์วิชั่น Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)ซึ่งเป็นศูนย์รักษาสายตาผิดปกติที่มีทางเลือกครบครันในการรักษา และเน้นการบริการที่มีประสิทธิภาพ