ย้อนกลับ
โรคตาแดงเกิดจากอะไร? การรักษาโรคตาแดงทำได้อย่างไร

โรคตาแดงเป็นอาการเยื่อบุตาส่วนที่เป็นตาขาวอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อกันได้ง่าย จึงต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตเป็นพิเศษเพื่อเลี่ยงอันตราย บทความนี้พามาดูวิธีการป้องกันและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง

  • ตาแดงคือภาวะเยื่อบุตาอักเสบ ทำให้เกิดตาแดง คัน น้ำตาไหล รู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในตา และอาจมีขี้ตามากขึ้น โดยสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อ การแพ้ หรือการระคายเคือง
  • โรคตาแดงจากเชื้อไวรัสมักหายเองได้ภายใน 7 - 10 วัน โดยไม่ต้องใช้ยา เพียงพักผ่อนและรักษาความสะอาด แต่ตาแดงจากแบคทีเรียอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
  • อาการที่ต้องรีบพบจักษุแพทย์ ได้แก่ อาการรุนแรงไม่ดีขึ้นภายใน 2 - 3 วัน ปวดตามาก ตามัว หรือเกิดในผู้ป่วยที่สวมคอนแท็กต์เลนส์
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตาเพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น ควรระวังการแพร่กระจายเชื้อ โดยไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น และหมั่นล้างมือบ่อยๆ

ตาแดงคืออะไร หายเองได้ไหม?

ตาแดงคือภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบ ทำให้ตาแดงและมีอาการคัน น้ำตาไหล รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา และอาจมีขี้ตามากขึ้น สาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย การแพ้ หรือการระคายเคือง

ตาแดงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ โดยเฉพาะตาแดงจากเชื้อไวรัสมักหายได้เองภายใน 7 - 10 วัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่ควรพักผ่อนและดูแลความสะอาด อย่างไรก็ตาม ตาแดงจากแบคทีเรียอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะรักษา หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นภายใน 2 - 3 วัน มีอาการปวดมาก ตามัว หรือเกิดในผู้ป่วยที่สวมคอนแท็กต์เลนส์ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

 

อาการตาแดงเป็นอย่างไร

 

อาการตาแดงเป็นอย่างไร

โดยปกติในผู้ป่วยโรคตาแดง จะพบอาการความผิดปกติดังนี้

  • คันตา ระคายเคืองผู้ป่วยมักรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในดวงตา ทำให้เกิดความรำคาญและมีเกิดอยากขยี้ตาตลอดเวลา ซึ่งการขยี้ตาอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
  • ตาขาวเปลี่ยนสีบริเวณตาขาวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มหรือแดงเกิดจากเส้นเลือดขยายตัว บางรายอาจมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาทำให้เห็นเป็นปื้นสีแดงชัดเจนกระจายบนพื้นตาขาว
  • น้ำตาและขี้ตาผิดปกติดวงตาผลิตน้ำตามากกว่าปกติจนไหลตลอดเวลา หรือมีขี้ตาเหนียวสีเหลืองหรือสีขาวปริมาณมากโดยเฉพาะในตอนเช้าหลังตื่นนอน ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เปลือกตาติดกัน
  • เปลือกตาบวมแดงการอักเสบลามไปถึงเปลือกตาทำให้เกิดอาการบวมแดง บางรายอาจพบว่าเปลือกตาหนาตัวขึ้น และมีความรู้สึกหนักตาร่วมด้วย
  • ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่น ตามัว มีฝ้าขาวที่กระจกตาดำ ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตกดเจ็บ ปวดตารุนแรง หรือปวดศีรษะ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องพบจักษุแพทย์ทันที

 

สาเหตุอาการตาแดงเกิดจากอะไร

 

สาเหตุอาการตาแดงเกิดจากอะไร

มาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตาแดงทั้ง 3 สาเหตุหลักๆ กัน

1. การติดเชื้อ

  • เชื้อไวรัสเป็นสาเหตุหลักของโรคตาแดงที่พบบ่อยที่สุด ผู้ป่วยมักมีอาการน้ำตาไหลมาก ตาแดงทั้งสองข้าง รู้สึกเคืองตา คันตา และมีขี้ตาใสปริมาณน้อย มักติดต่อได้ง่ายและอาจต้องใช้เวลาหายเอง
  • เชื้อแบคทีเรียตาแดงจากแบคทีเรียมีลักษณะเด่นคือมีขี้ตาข้นสีเหลืองหรือเขียวปริมาณมาก เปลือกตามักบวมแดง และอาจมีอาการปวดตาร่วมด้วย การติดเชื้อชนิดนี้ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม

2. การแพ้และระคายเคือง

  • ฝุ่น ควัน หรือสารเคมีการสัมผัสสิ่งระคายเคืองในอากาศทำให้เกิดอาการตาแดง น้ำตาไหล และระคายเคือง อาการมักดีขึ้นเมื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น การหยอดน้ำตาเทียมช่วยบรรเทาอาการและล้างสิ่งระคายเคืองออกจากตาได้
  • การแพ้เครื่องสำอางหรือน้ำยาคอนแท็กต์เลนส์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณดวงตาอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้ตาแดง คัน และบวม ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยทันที และใช้น้ำสะอาดล้างตาเพื่อลดการอักเสบ

3. อาการของโรคตาอื่นๆ

  • ตาแห้งเรื้อรังภาวะที่ดวงตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอหรือน้ำตามีคุณภาพไม่ดี ทำให้เกิดอาการตาแดง แสบตา และรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา การใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำช่วยบรรเทาอาการได้
  • ภูมิแพ้ขึ้นตาเกิดจากการแพ้สารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ ทำให้ตาแดง คันตามาก น้ำตาไหล และอาจมีอาการจามหรือคัดจมูกร่วมด้วย ยาต้านฮิสตามีนช่วยบรรเทาอาการได้
  • กระจกตาอักเสบเป็นภาวะที่กระจกตา (ส่วนใสด้านหน้าของตา) อักเสบ ทำให้มีอาการปวดตารุนแรง ตาแดง กลัวแสง และตาแดงจนมองไม่ชัด ต้องได้รับการรักษาโดยจักษุแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ตาแดงแบบไหนที่สามารถติดต่อได้?

โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับน้ำตาหรือขี้ตาของผู้ป่วย การใช้สิ่งของร่วมกัน หรือการไอจามรดกัน เชื้อมักระบาดในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เช่น รถโดยสารสาธารณะ โรงพยาบาล และโรงเรียน โดยพบบ่อยในกลุ่มเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กมักมีพฤติกรรมป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคที่ไม่เคร่งครัดเท่าผู้ใหญ่

 

การรักษาโรคตาแดง

 

การรักษาโรคตาแดง

เนื่องจากโรคตาแดงเกิดจากเชื้อไวรัสจึงยังไม่มียารักษาโดยตรง และยาต้านไวรัสที่มีอยู่ไม่ได้ผลกับเชื้อชนิดนี้ การรักษาจึงเน้นตามอาการ เช่น ให้ยาปฏิชีวนะหยอดตาเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน โดยหยอดเฉพาะตาข้างที่เป็นเท่านั้น

วิธีรักษาตาอักเสบแดงหรือโรคตาแดง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดแก้อักเสบและยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลหากมีอาการเจ็บตา ควรใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดขี้ตา ใส่แว่นกันแดดเพื่อลดอาการเคืองแสง และควรงดใส่คอนแท็กต์เลนส์จนกว่าจะหายอักเสบ พร้อมพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการใช้สายตามากเกินไป

 

แนวทางการดูแลตัวเองสำหรับคนที่เป็นตาแดง

 

แนวทางการดูแลตัวเองสำหรับคนที่เป็นตาแดง

แนวทางเบื้องต้นในการดูแลตัวเองของอาการตาแดงหรือตาอักเสบ เพื่อป้องกันและบรรเทาไม่ให้อาการแย่ลง สามารถทำได้ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา ไม่ขยี้ตาหรือสัมผัสดวงตาโดยตรง เพราะจะทำให้อาการแย่ลงหรือทำให้ดวงตาอีกข้างติดเชื้อได้
  2. หมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ และล้างทันทีหากสัมผัสใบหน้า ดวงตา หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
  3. ใช้ผ้าหรือสำลีชนิดนุ่มชุบน้ำอุ่นเช็ดตา ซับน้ำตา หรือเช็ดขี้ตาออกเบาๆ โดยใช้สำลีแผ่นใหม่ทุกครั้ง แล้วอย่าลืมทิ้งในถังขยะที่ปิดมิดชิด
  4. หยอดตาเฉพาะข้างที่มีอาการเท่านั้น ไม่ควรหยอดตาทั้งสองข้างด้วยยาหยอดตาขวดเดียวกัน
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกัน ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หรือหมอนร่วมกับผู้อื่น
  6. หยุดใช้คอนแท็กต์เลนส์ชั่วคราว เปลี่ยนไปใช้แว่นตาจนกว่าอาการจะหายดี
  7. งดว่ายน้ำในสระว่ายน้ำในช่วงที่โรคตาแดงระบาด
  8. งดใช้เครื่องสำอางรอบดวงตา และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่น ควัน หรือสารเคมี
  9. พักเรียนหรือพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อไม่ให้โรคแพร่กระจายสู่ผู้อื่น
  10. พักการใช้สายตา และพักผ่อนให้เพียงพอ
  11. ไม่จำเป็นต้องปิดตา เว้นแต่กรณีที่กระจกตาอักเสบหรือเคืองตามาก อาจปิดตาชั่วคราวหรือสวมแว่นกันแดดแทน

การรักษาโรคตาแดง ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร

หากมีอาการของโรคตาแดง แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง แนะนำให้เข้ามาปรึกษาและรักษาอาการเหล่านี้ได้ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ที่นี่โดดเด่นด้านการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยจักษุแพทย์มากความรู้และทีมงานมากประสบการณ์ที่พร้อมดูแลและแก้ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา ทางโรงพยาบาลยังมีจุดเด่นดังนี้

  • โรงพยาบาลมีทีมจักษุแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติ และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
  • เทคโนโลยีสำหรับการรักษาดวงตาสมัยใหม่ เครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อการรักษาดวงตาอย่างแม่นยำและปลอดภัย
  • พร้อมให้การรักษาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
  • ใส่ใจในการบริการ พร้อมบรรยากาศของโรงพยาบาลที่เป็นกันเอง

สรุป

ตาแดงเป็นภาวะเยื่อบุตาอักเสบที่ทำให้เกิดอาการตาแดง คัน น้ำตาไหล รู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในตา และอาจมีขี้ตามากขึ้น สาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัส (มักหายเองใน 7-10 วัน) แบคทีเรีย (อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ) การแพ้ หรือการระคายเคือง ควรรีบพบจักษุแพทย์หากอาการรุนแรงไม่ดีขึ้นภายใน 2 - 3 วัน มีอาการปวดตามาก ตามัว หรือเกิดในผู้สวมคอนแท็กต์เลนส์ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตาและระวังการแพร่กระจายเชื้อโดยไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่นและหมั่นล้างมือบ่อยๆ

สำหรับคนที่มีปัญหาดวงตา แนะนำมาที่Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)โรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีแพทย์มากประสบการณ์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล มั่นใจได้ว่าการรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัย

calling
ติดต่อเรา : +662 511 2111