ជ្រុងនៃសុខភាពភ្នែក : #เลสิก

តម្រៀប

What Is Thin Cornea? Causes, Symptoms, and Eye Care Tips

A thin cornea refers to a condition where the cornea—the clear, dome-shaped front layer of the eye—has a thickness lower than normal, which can affect vision and overall eye health. This condition may result from various causes such as natural aging, frequent eye rubbing, genetic disorders, or side effects from eye surgeries like LASIK. Common symptoms include blurry vision, frequent changes in prescription, distorted images, and unusually high astigmatism.   Understanding the Cornea The cornea is the transparent, curved layer covering the front part of the eye. It helps focus light into the eye for clear vision and serves as a protective barrier against dust and germs. Normally, corneal thickness ranges between 520–550 microns, but it may thin with age.   What Is a Thin Cornea? A thin cornea is typically defined as a corneal thickness of less than 500 microns (0.5 mm). It is not necessarily a disease and often requires no treatment. However, thin corneas can affect certain diagnoses—such as glaucoma—since intraocular pressure readings may appear lower than actual values. Corneal thickness also plays an important role in refractive surgery decisions. For example, patients with thin corneas and high refractive errors (nearsightedness or astigmatism) may not be ideal candidates for LASIK, as the remaining corneal tissue after surgery might be too thin. This could increase the risk of complications like keratoconus or corneal ectasia. In such cases, ophthalmologists may recommend alternative procedures such as PRK, ICL, FemtoLASIK, ReLEx SMILE Pro, or NanoLASIK, which preserve more corneal tissue. Therefore, detailed corneal thickness assessment is essential before undergoing LASIK to ensure safe and effective outcomes.   Does Wearing Contact Lenses Cause Thinning of the Cornea? Generally, wearing contact lenses correctly does not thin the cornea. However, prolonged use without proper cleaning or rest may lead to oxygen deprivation or corneal infections, which can gradually weaken or thin corneal tissue.   Causes of Thin Cornea There are several factors that can lead to corneal thinning: 1. Genetic Conditions Keratoconus: The most common cause, where the cornea gradually thins and bulges outward into a cone shape, leading to irregular astigmatism and blurred vision. It usually appears during the teenage years to early adulthood. Corneal Dystrophies: Such as Pellucid Marginal Degeneration (PMD), where thinning occurs in the lower peripheral cornea. 2. Eye Surgery or Injury Procedures like LASIK or PRK can thin the cornea, especially if excessive corneal tissue is removed. Repeated eye injuries or untreated infections (e.g., corneal ulcers, keratitis) can also cause thinning due to tissue damage. 3. Systemic Diseases and Medication Autoimmune diseases such as Rheumatoid Arthritis or SLE can cause chronic inflammation, leading to corneal thinning.Long-term use of steroid eye drops may also weaken corneal tissue over time.   Symptoms of Thin Cornea Corneal thinning often progresses slowly and may not show early signs. Key symptoms include: Blurry or distorted vision Frequent changes in prescription High or irregular astigmatism Difficulty focusing or double vision   Diagnosis Thin cornea is often detected during pre-LASIK evaluations.Eye doctors use devices like: Keratometer: Measures corneal curvature and astigmatism. Corneal Topography: Creates a detailed map of corneal thickness and shape. Tomographic Biomechanical Index (TBI): Evaluates corneal strength and risk of ectasia. While early symptoms can hint at the condition, only a comprehensive eye exam by an ophthalmologist can confirm it.   Summary Thin cornea is a silent condition that can significantly impact vision if left untreated. Early detection—especially before refractive surgery—is crucial.At Bangkok Eye Hospital, advanced diagnostic tools and experienced specialists ensure accurate corneal thickness evaluation and personalized treatment planning to maintain long-term eye health.     FAQ: Frequently Asked Questions About Thin Cornea 1. Can corneal thickness be increased?No, corneal thickness cannot naturally increase as it is determined by the cornea’s internal structure. 2. What happens if thin cornea is left untreated?It may lead to worsening blurred vision, irregular astigmatism, or even corneal ectasia. In severe cases, acute hydrops or corneal perforation may occur, leading to permanent vision loss if untreated. 3. Can thin cornea be prevented?Yes — by avoiding vigorous eye rubbing, maintaining good eye hygiene, limiting contact lens wear time, and having regular eye checkups, especially if there is a family history of corneal diseases.
អាន​បន្ថែម

ชอบขยี้ตาบ่อย เลือกทำเลสิกแบบไหนดีให้ปลอดภัยและเหมาะกับคุณ?

การขยี้ตาบ่อยหลังทำเลสิกเสี่ยงทำให้ฝากระจกตาเคลื่อนหรือเกิดแผล ทำให้สายตาพร่ามัวหรือเกิดการติดเชื้อได้ เทคนิคเลสิกที่เหมาะกับคนขยี้ตาบ่อย ได้แก่ PRK และ SMILE เพราะไม่สร้างฝากระจกตา จึงลดความเสี่ยงฝากระจกตาเคลื่อน พร้อมทั้งช่วยให้ฟื้นตัวได้ดี หลังทำเลสิก ผู้ที่ชอบขยี้ตาบ่อยควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา งดแต่งหน้าใกล้ดวงตา หลีกเลี่ยงน้ำเข้าตา และใส่แว่นกันลม กันฝุ่นเพื่อป้องกันการระคายเคือง การขยี้ตาบ่อยเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังจะทำเลสิกหรือเคยทำเลสิกไปแล้ว เพราะนอกจากจะทำให้ตาระคายเคืองแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ หากต้องการทำเลสิกจริงๆ ควรเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับพฤติกรรมนี้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อควรระวังและวิธีดูแลดวงตาหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ปลอดภัยและยาวนานที่สุด ทำไมการขยี้ตาบ่อยถึงเป็นอันตรายหลังทำเลสิก? การขยี้ตาบ่อยหลังทำเลสิก โดยเฉพาะในช่วงแรกของการพักฟื้น อาจส่งผลเสียร้ายแรงได้ เพราะการทำเลสิกแต่ละประเภทมีวิธีการรักษาและฟื้นฟูที่แตกต่างกัน การขยี้ตาจึงอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการรักษาและผลลัพธ์ที่ได้ ดังนี้   ผลจากการขยี้ตาบ่อยหลังทำเลสิก เลสิกเป็นการผ่าตัดสร้างฝากระจกตา การขยี้ตาบ่อยหรือขยี้ตาแรงอาจทำให้ฝากระจกตาเคลื่อน หลุด หรือพับยับ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินต้องแก้ไขทันที และเสี่ยงต่อสายตาพร่ามัวหรือติดเชื้อได้ ผลจากการขยี้ตาบ่อยหลังทำ PRK (Photorefractive Keratectomy) แม้ไม่สร้างฝากระจกตา แต่หลังทำ PRK/TransPRK ผิวกระจกตาชั้นนอกถูกลอกออก การขยี้ตาอาจทำให้แผลหายช้า เกิดการติดเชื้อ หรือพังผืดที่กระจกตาได้ ภาวะกระจกตาย้วย (Keratoconus) ผู้ที่ชอบขยี้ตาบ่อยเสี่ยงเกิดภาวะกระจกตาย้วย ซึ่งกระจกตาบางและโป่งออก ทำให้ไม่เหมาะกับการทำเลสิกบางประเภท หรือหากทำแล้วอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น เทคนิคเลสิกที่เหมาะสมสำหรับคนขยี้ตาบ่อย ถ้าคุณมักเผลอขยี้ตาบ่อย การปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินสภาพตาและเลือกเทคนิคเลสิกที่ไม่สร้างฝากระจกตาหรือมีผลกระทบน้อยต่อโครงสร้างกระจกตาจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเทคนิคที่เหมาะสม เช่น PRK (Photorefractive Keratectomy) หรือ TransPRK เทคนิคนี้ใช้เลเซอร์เจียระไนเนื้อกระจกตาโดยตรงที่ผิวชั้นบนสุดโดยไม่สร้างฝากระจกตา ทำให้ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ที่ชอบขยี้ตา เพราะไม่มีความเสี่ยงที่ฝากระจกตาจะเคลื่อนตัว อีกทั้งกระจกตาหลังทำยังมีความแข็งแรงมากกว่าเลสิก อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาพักฟื้นจะนานกว่า ประมาณ 3-5 วันแรกอาจรู้สึกเคืองตาและมองไม่ชัด ผลการมองเห็นจึงคงที่ช้ากว่าเลสิก เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่ชอบขยี้ตาบ่อย นักกีฬาที่เสี่ยงกระทบกระเทือนดวงตา หรือผู้ที่มีกระจกตาบางไม่เหมาะกับการทำเลสิก และควรให้ความสำคัญกับการดูแลดวงตาหลังผ่าตัดเลสิกอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและการฟื้นตัวที่รวดเร็ว ReLEx SMILE (Small Incision Lenticule Extraction) เทคนิคนี้ใช้เลเซอร์สร้างชิ้นเนื้อกระจกตา (Lenticule) ภายในกระจกตา แล้วนำชิ้นเนื้อนั้นออกผ่านแผลเล็กๆ ขนาด 2-4 มิลลิเมตร โดยไม่ต้องสร้างฝากระจกตาที่เปิดออก ทำให้แผลมีขนาดเล็กและฟื้นตัวเร็ว ความเสี่ยงที่ฝากระจกตาจะเคลื่อนตัวจึงน้อยกว่าเลสิกมาก อีกทั้งกระจกตาหลังทำยังคงมีความแข็งแรงดี อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ไม่สามารถแก้ไขสายตายาวได้ และมีข้อจำกัดในเรื่องค่าสายตาที่สามารถแก้ไขได้ เหมาะกับผู้ที่มีสายตาสั้นหรือเอียงไม่เกินเกณฑ์ รวมถึงผู้ที่ชอบขยี้ตาและต้องการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรณีที่เผลอขยี้ตาหลังทำเลสิก เทคนิคนี้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาฝากระจกตาเคลื่อนหรือเสียหายได้ดีกว่า NanoRelex® NanoReLEx® เป็นเทคนิคที่มีความแม่นยำสูงในการปรับแต่งเนื้อเยื่อภายในชั้น Stroma ของกระจกตา โดยคำนวณชิ้นเนื้อกระจกตาในรูปแบบ 3 มิติ เรียกว่า Lenticule ตามค่าสายตาของแต่ละบุคคล จากนั้นนำ Lenticule ออกผ่านแผลขนาดเล็กเพียง 2–3 มิลลิเมตร จุดเด่นคือใช้พลังงานต่ำในระดับนาโนจูลย์ ทำให้กระทบกระเทือนดวงตาน้อยและฟื้นตัวเร็วขึ้น การผ่าตัดด้วย NanoReLEx® ใช้เวลาสั้น ลดอาการตาแห้งหลังการรักษา แผลขนาดเล็กช่วยให้กระจกตาคงรูปร่างและความแข็งแรงหลังผ่าตัด SMILE Pro®   SMILE Pro® เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์แก้ไขสายตาที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพเหนือกว่า ReLEx SMILE รุ่นเดิมทั้งด้านความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความสบายตาขณะทำการรักษา จุดเด่นอยู่ที่การใช้เครื่องเลเซอร์ Carl ZEISS VisuMax 800 รุ่นล่าสุด สามารถยิงเลเซอร์เสร็จสิ้นภายใน 8 วินาทีต่อดวงตา และสามารถปรับแต่งรูปร่างกระจกตาได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ทางสายตาที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือเอียงมาก ช่วยลดความกังวลและเพิ่มความสบายให้ผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างมาก     หลังทำเลสิกห้ามทำอะไรบ้าง สำหรับคนขยี้ตาบ่อย หากคุณตัดสินใจทำเลสิกและมีพฤติกรรมชอบขยี้ตาบ่อย การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันปัญหาและช่วยให้ดวงตาฟื้นตัวอย่างปลอดภัย พยายามหยุดขยี้ตา การขยี้ตาหนักๆ อาจทำให้ฝากระจกตาหลุดหรือเสียหาย ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและทำให้ผลลัพธ์เลสิกไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงควรฝึกควบคุมและหลีกเลี่ยงการขยี้ตาทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลหายไว และรักษาคุณภาพการมองเห็นให้นานที่สุด ใช้ยาหยอดตา หากคุณขยี้ตาบ่อยเพราะรู้สึกคันหรือตาแห้ง การปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาหยอดตาที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ยาหยอดตาอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง ลดความอยากขยี้ตา และช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นมากขึ้น ส่งผลให้การฟื้นตัวหลังทำเลสิกเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น สวมแว่นตาป้องกัน หลังทำเลสิก 7 วัน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก ควรใส่แว่นตากันลม กันฝุ่น และลดแสงจ้า เพื่อปกป้องดวงตาจากสิ่งแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้แว่นตายังทำหน้าที่ช่วยให้ระมัดระวังและไม่เผลอขยี้ตา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวและความปลอดภัยของกระจกตาหลังผ่าตัด ระมัดระวังการทำความสะอาดตา ควรทำความสะอาดตาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเบามือที่สุด เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือความเสียหายต่อกระจกตา หลีกเลี่ยงการถูหรือขยี้ตาขณะทำความสะอาด และใช้วิธีที่ถูกต้อง เช่น ใช้น้ำเกลือล้างตาหรือผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆ วิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิกนี้ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและส่งเสริมการฟื้นตัวของดวงตาอย่างปลอดภัย ปรึกษาแพทย์ทันที หากเผลอขยี้ตาแรงๆ หลังทำเลสิก หรือรู้สึกปวดตา ตาแดงมากผิดปกติ เห็นภาพพร่าหรือแสงกระจาย มีน้ำตาไหลมาก หรือตาแห้งผิดปกติ ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น ฝากระจกตาเคลื่อนหรือติดเชื้อ การได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยป้องกันความเสียหายรุนแรงและรักษาคุณภาพการมองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังทำเลสิก ไม่ควรเล่นโทรศัพท์บ่อย ควรพักสายตาและหลีกเลี่ยงการเพ่งจอเป็นเวลานาน เพื่อช่วยลดอาการตาแห้งและอาการล้า ช่วยให้ดวงตาฟื้นตัวได้ดีขึ้น สรุป สำหรับคนที่ขยี้ตาบ่อย การทำเลสิกควรเลือกเทคนิคที่ปลอดภัยและเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน เช่น ฝากระจกตาเคลื่อนหรือกระจกตาบาง เทคนิคที่ไม่สร้างฝากระจกตาหรือมีแผลเล็ก เช่น PRK หรือ SMILE เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วและกระจกตาแข็งแรงกว่าเดิม Bangkok Eye Hospital มีทีมจักษุแพทย์ผู้ชำนาญและเทคโนโลยีทันสมัย ที่ช่วยประเมินสภาพดวงตาอย่างละเอียด เพื่อแนะนำวิธีทำเลสิกที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของแต่ละคน พร้อมคำแนะนำดูแลดวงตาหลังผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและการฟื้นตัวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคนขยี้ตาบ่อยทำเลสิก (FAQ) รวบรวมคำตอบที่ช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบของการขยี้ตาต่อการทำเลสิก วิธีเลือกเทคนิคเลสิกที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการขยี้ตา รวมถึงคำแนะนำในการดูแลดวงตาหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและรักษาผลลัพธ์ให้คงทน พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจทำเลสิกในกรณีนี้ คนชอบขยี้ตาบ่อยๆ ทำเลสิกได้ไหม? ทำได้ แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และบางเทคนิคอาจเหมาะสมกว่า แพทย์จะประเมินสภาพตาและความรุนแรงของพฤติกรรมการขยี้ตาอย่างละเอียด หากสามารถควบคุมการขยี้ตาหลังผ่าตัดได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่หากควบคุมไม่ได้ อาจต้องเลือกเทคนิคที่ปลอดภัยกว่า หรือหาทางแก้ไขพฤติกรรมขยี้ตาก่อน มีวิธีลดพฤติกรรมการขยี้ตาไหม ใช้ยาหยอดตาเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อลดอาการตาแห้งและระคายเคือง หาสาเหตุอาการคัน เช่น ภูมิแพ้ และรับยาหยอดตาแก้แพ้ สวมแว่นตาหรือแว่นกันแดดเพื่อป้องกันฝุ่น ลม และแสงแดด พร้อมฝึกสังเกตตัวเองและหยุดพฤติกรรมขยี้ตาให้ได้ เผลอขยี้ตาหลังทำเลสิกไปแล้ว ต้องทำอย่างไร? หากคุณเผลอขยี้ตาอย่างรุนแรงหลังทำเลสิก (โดยเฉพาะในช่วง 1-3 เดือนแรก) และรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ตาพร่ามัว เจ็บตามาก มองเห็นภาพซ้อน หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา ควรรีบกลับไปพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อตรวจดูว่าฝากระจกตาเคลื่อนหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน  
Cataract Center
Retina Center
Laser Vision LASIK Centre
Glaucoma Center
Cornea Center
Children's Eye Center
Oculoplastic
Neuroophthalmology

เลสิกสำหรับนักแบดมินตัน เพิ่มความคมชัดเพื่อชัยชนะทุกคอร์ต | Bangkok Eye Hospital

  เลสิกสำหรับนักแบดมินตัน: พลิกเกมด้วยสายตาที่คมชัดกว่า 🏸 “พริบตาเดียวบนคอร์ต อาจเปลี่ยนชัยชนะเป็นความพลาด” การเล่นแบดมินตันไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังหรือความเร็ว แต่หัวใจสำคัญคือ การมองเห็นที่แม่นยำและรวดเร็ว เพื่อการ "อ่านเกม อ่านลูก และอ่านทางคู่แข่ง" ได้เหนือกว่าใคร! อุปสรรคทางสายตาที่นักกีฬาต้องเจอ เคยไหมที่ต้องมัวดันแว่นระหว่างการแข่งขัน? หรือกังวลว่าคอนแทคเลนส์จะหลุดกลางเกม? ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้คุณเสียสมาธิและพลาดจังหวะสำคัญในเสี้ยววินาที... ซึ่งอาจหมายถึงการเสียคะแนนหรือพลาดชัยชนะไปอย่างน่าเสียดาย LASIK: คำตอบสำหรับนักกีฬายุคใหม่ การทำเลสิก (LASIK) คือทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับนักกีฬาแบดมินตันและผู้ที่รักการออกกำลังกายทุกคน ช่วยปลดล็อกศักยภาพของคุณให้เหนือกว่าเดิม สายตาคมชัด โฟกัสการเคลื่อนไหวของลูกขนไก่ได้ดีขึ้น คล่องตัวทุกการเคลื่อนไหว ไม่ต้องกังวลเรื่องแว่นหรือคอนแทคเลนส์ มั่นใจในทุกช็อต ทั้งลูกตบ ลูกหยอด หรือลูกตัด เมื่อไร้กังวลเรื่องสายตา คุณจะสามารถโฟกัสที่เกมการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ เพราะการมองเห็นที่ดี ไม่ได้แค่ทำให้เล่นดีขึ้น แต่ทำให้คุณ “มั่นใจในทุกการเคลื่อนไหว” ปรึกษาการทำเลสิกสำหรับนักกีฬา ดวงตามีคู่เดียว มั่นใจให้แพทย์เฉพาะทางดูแล ที่ Laser Vision at Bangkok Eye Hospital เลียบทางด่วนรามอินทรา โทรเลย: 02-511-2111 #LASERVISION #SMILEPro #LASIK #BangkokEyeHospital #เลสิกไร้ใบมีด #LASIKForSport #Badminton #กีฬาแบดมินตัน
Cataract Center
Retina Center
Laser Vision LASIK Centre
Glaucoma Center
Cornea Center
Children's Eye Center
Oculoplastic
Neuroophthalmology

ภาพเบลอในสนาม อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญ

"ภาพเบลอในสนาม อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญ" ⚽👀  เพราะในทุกวินาทีของการแข่งขัน... “สายตา” คืออาวุธลับที่คุณอาจมองข้ามจะเล็ง จะส่ง จะยิง ทุกจังหวะต้องแม่นยำ แต่ถ้ามองไม่ชัดตั้งแต่แรก คุณอาจพลาดสิ่งสำคัญที่อยู่ตรงหน้า  ไม่ว่าจะเป็น: ✅ โอกาสในการยิงประตู ✅ การอ่านเกมในเสี้ยววินาที ✅ การเคลื่อนไหวที่มั่นใจและคล่องตัว   การทำเลสิกช่วยให้คุณกลับมามองเห็นชัด ลดการพึ่งพาแว่นหรือคอนแทคเลนส์ พร้อมเปลี่ยนทุกเกมให้คุณ "คุมสนามได้อยู่หมัด"   📍 Laser Vision ปรึกษาการทำเลสิกสอบถามได้ที่ 02-511-2111   #LASERVISION #SMILEPro #LASIK #smarteyehospital #BangkokEyeHospital #QualityEyeCare #BestVisionBestVersion #NoBlade #เลสิกไร้ใบมีด #LASIKForSport #Sport #Football #กีฬาฟุตบอล  
Cataract Center
Retina Center
Laser Vision LASIK Centre
Glaucoma Center
Cornea Center
Children's Eye Center
Oculoplastic
Neuroophthalmology

Laser Vision: ปลดล็อกศักยภาพนักกอล์ฟ ด้วยเลสิก (LASIK) และ SMILE Pro

กอล์ฟ คือ เกมส์ของการโฟกัส เล่นกอล์ฟเก่งแค่ไหน ถ้ามองไม่ชัด… ก็พลาดได้ง่าย ๆ การทำเลสิก ไม่ได้แค่ช่วยให้คุณมองชัดขึ้นแต่ช่วย “ยกระดับเกม” ของคุณไปอีกขั้น ไม่ต้องเล็งผ่านเลนส์ ไม่ต้องพะวงแว่นหลุด เห็นธงชัดตั้งแต่ระยะ 200 หลา เล่นได้มั่นใจ โฟกัสได้เต็มที่ในทุกหลุม อย่าปล่อยให้สายตาเป็นอุปสรรคของวงสวิง 📍 Laser Vision at Bangkok Eye Hospital เลียบทางด่วนรามอินทรา ดวงตามีคู่เดียว มั่นใจให้แพทย์เฉพาะทางดูแล ปรึกษาการทำเลสิกสอบถามได้ที่ 02-511-2111 #LASERVISION #SMILEPro #LASIK #smarteyehospital #BangkokEyeHospital #QualityEyeCare #BestVisionBestVersion #GolfVision #LASIKForGolfers

LASIK for Astigmatism

What is LASIK for Astigmatism? LASIK (Laser-Assisted in Situ Keratomileusis) is an advanced laser vision correction procedure designed to treat astigmatism, along with nearsightedness (myopia) and farsightedness (hyperopia). Astigmatism occurs when the cornea has an irregular shape, causing blurred or distorted vision at all distances. At Bangkok Eye Hospital, we offer state-of-the-art LASIK treatments to help patients achieve clearer, sharper vision with minimal downtime. Benefits of LASIK for Astigmatism Corrects Blurred or Distorted Vision – Reshapes the cornea for improved clarity Quick and Painless Procedure – Takes only about 15 minutes per eye Fast Recovery – Most patients experience better vision within 24 hours Reduces Dependence on Glasses and Contact Lenses Long-Lasting Results – Stable vision improvement for years to come Who is a Good Candidate for LASIK? Eligibility Criteria 18 years or older with a stable vision prescription for at least 1 year Mild to moderate astigmatism that falls within treatable limits Healthy corneas with sufficient thickness No severe dry eye syndrome or eye diseases Not pregnant or nursing The LASIK Procedure at Bangkok Eye Hospital Step-by-Step Process Comprehensive Eye Examination – To determine LASIK suitability Pre-Surgery Preparation – Numbing eye drops and safety measures Corneal Reshaping – Laser precisely reshapes the cornea to correct vision Post-Surgery Care – Immediate rest and follow-up visits for monitoring Recovery and Aftercare What to Expect After LASIK Mild discomfort or dryness for a few days Blurry vision initially, improving within 24–48 hours Avoid strenuous activities and eye rubbing for a few weeks Regular follow-up checkups to ensure proper healing Why Choose Bangkok Eye Hospital for LASIK? Experienced Surgeons – Specialists in laser eye surgery Advanced Laser Technology – Precision and safety with cutting-edge equipment Personalized Treatment Plans – Tailored to your specific vision needs Comprehensive Post-Surgery Care – Ensuring optimal results and long-term eye health Book Your LASIK Consultation Today Take the first step toward clearer, sharper vision! Schedule a consultation with our LASIK specialists at Bangkok Eye Hospital today.

LASIK for Hyperopia (Farsightedness)

สายตายาว คือ ภาวะการมองเห็นผิดปกติ ความสามารถในการมองเห็นระยะไกลชัดเจน แต่มองเห็นสิ่งของในระยะใกล้ต่ำ หรืออาจเป็นได้ทั้ง 2 ระยะ สาเหตุของสายตายาว เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นและเกิดโดยกำเนิดผ่านทางพันธุกรรม ทำเลสิกสายตายาว คือ วิธีการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ในการปรับค่าสายตาให้กลับมาอยู่ที่ค่าปกติ โดยการเพิ่มระยะโฟกัส การทำเลสิกสายตายาวแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Full Correction Lasik, Monovision Lasik, Presbylasik และ Laser Blended Vision (LBV) การทำเลสิกสายตายาวให้ปลอดภัย ควรเลือกทำกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อ พร้อมทั้งแพทย์ที่มีประสบการณ์ชำนาญทางด้านการทำเลสิกตาโดยเฉพาะ ทำเลสิกสายตายาว ที่ศูนย์เลเซอร์วิชั่น Bangkok Eye Hospital มีเครื่องมือได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการรักษาสายตายาว และจักษุแพทย์มากประสบการณ์ มีเทคนิคที่หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล   ปัจจุบันมีการทำเลสิกสายตายาวเพื่อปรับคุณภาพการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่าการทำเลสิกสายตายาว คืออะไร หากสนใจอยากปรับค่าสายให้กลับมาตามปกติ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างทั้งก่อนและหลังทำเลสิก รวมทั้งประเภทเลสิกต่างๆ หาคำตอบได้ในบทความนี้     สายตายาว คืออะไร ภาวะสายตายาวเป็นภาวะผิดปกติทางการมองเห็น เกิดจากกระจกตาแบนเกินไปหรือกล้ามเนื้อตาและเลนส์แก้วภายในเสื่อมอายุ ผู้ที่มีภาวะนี้จะสามารถมองเห็นภาพชัดเจนเมื่ออยู่ในระยะไกล แต่จะมองเห็นภาพที่อยู่ใกล้ตัวไม่ชัดเจน ซึ่งในบางรายอาจมองเห็นไม่ชัดเจนทั้งในระยะใกล้และไกล โดยภาวะสายตายาวมักจะเกิดกับผู้สูงอายุที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะเรียกว่า สายตายาวตามวัย (Presbyopia) และในเด็กตั้งแต่เกิดผ่านทางพันธุกรรม เรียกว่า สายตายาวโดยกำเนิด (Farsightedness) อาการสายตายาว เป็นอย่างไร ใครที่สงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีภาวะสายตายาว สังเกตได้จากอาการเหล่านี้ ปวดศีรษะหรือปวดตา มีอาการตาล้าอยู่บ่อยๆ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้สายตาเพ่งหรือจ้องขณะมอง มองเห็นภาพซ้อน ต้องหรี่ตาเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน แสบตา น้ำตาไหล ตาไวต่อแสง มองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืนได้ยากลำบาก เด็กที่มีสายตายาวอาจมีอาการตาเข หรือตาเหล่จากการเพ่งจ้อง เด็กที่มีสายตายาวจะมีพฤติกรรมขยี้ตาบ่อย ส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันเช่นการขับขี่ยานพาหนะ การอ่านหนังสือ การทำงาน ต่างๆ สายตายาว มีกี่ประเภท สายตายาวแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท สายตายาวตามวัยเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อตาเริ่มเสื่อมสภาพทำให้ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปประสบปัญหาในการมองเห็นสายตายาว เมื่อต้องใช้สายตาจึงต้องยื่นวัตถุระยะห่างมากขึ้น สายตายาวตั้งแต่กำเนิดเป็นภาวะที่เกิดโดยกำเนิด ไม่รู้ตัว เด็กที่มีสายตายาวจะไม่สามารถสื่อสารหรือบอก ได้ถึงความผิดปกติในการมองเห็นของตน ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กเพื่อสังเกตอาการ     สาเหตุสายตายาว เกิดจากอะไร สายตายาวเกิดขึ้นเมื่อมีความผิดปกติที่รูปร่างของกระจกตา (ชั้นใสด้านหน้าของดวงตา) หรือเลนส์ตา (ส่วนภายในของดวงตาที่ช่วยในการโฟกัสภาพ) ความผิดปกตินี้ทำให้แสงโฟกัสไปที่จุดด้านหลังจอประสาทตา แทนที่จะตกลงบนจอประสาทตาโดยตรง ส่งผลให้การมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้เกิดความพร่ามัว ผู้ที่มีสายตายาวส่วนใหญ่มักมีภาวะนี้ตั้งแต่กำเนิด แต่อาจไม่แสดงอาการหรือมีปัญหาการมองเห็นจนกว่าจะมีอายุมากขึ้น โดยคนที่มีประวัติสายตายาวในครอบครัวมีโอกาสที่จะเป็นสายตายาวได้มากกว่าคนทั่วไป การวินิจฉัยสายตายาวโดยแพทย์ ปัญหาสายตายาวหากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและหาวิธีรักษาที่เหมาะสม วินิจฉัยโดยวิธีต่างๆ ดังนี้ ส่องตรวจในตา (Ophthalmoscopy) วัดความดันลูกตา (Tonometry) การวัดค่าสายตา (Refraction) ตรวจด้วยเครื่องตรวจตา (Slit Lamp) เพื่อทดสอบความสามารถในการมองเห็น ถ่ายภาพกระจกตา (Corneal Topography) วัดความหนาของกระจกตาในการทำเลสิกสายตายาว วัดกำลังสายตา (Phoropter) วัดความโค้งของกระจกตา (Keratometer) หลังจากที่วินิจฉัย จักษุแพทย์จะอธิบายถึงปัญหาสายตายาวและแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและคนไข้สามารถกลับใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำเลสิกสายตายาว คืออะไร การทำเลสิกสายตายาวคือ การเพิ่มระยะโฟกัสโดยใช้เลเซอร์แก้ไขค่าสายตาให้กลับมองเห็นในระยะไกลได้ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตายาว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ขาดความมั่นใจ ทำให้อ่านหนังสือ หรือทำงานลำบาก นอกจากนี้ การสวมใส่แว่นอาจเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมผาดโผน ออกกำลังกาย หรือต้องขับรถบ่อยๆ เป็นต้น     ประเภทการทำเลสิกสายตายาว การทำ LASIK สายตายาวมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันออกไป สามารถศึกษาเพื่อสอบถามจักษุแพทย์เพิ่มเติมในการพิจารณาวินิจฉัยเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับตนเองได้ ดังนี้ 1. Full Correction Lasik Full Correction Lasik เป็นวิธีการรักษาด้วยเลเซอร์แบบดั้งเดิม เน้นการแก้ไขความผิดปกติของผู้ที่มีปัญหาสายตายาวแต่กำเนิด เพื่อให้สามารถกลับมองเห็นได้ชัดเจนระยะไกล ซึ่งวิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตายาวจากอายุที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากยังจำเป็นที่้ต้องใช้แว่นสายตาสำหรับการมองเห็นในระยะใกล้ 2. Monovision Lasik Monovision Lasik เป็นเทคโนโลยีการรักษาด้วยเลเซอร์นี้จะปรับแต่งการมองเห็นของตาแต่ละข้างให้แตกต่างกัน โดยปรับสายตาข้างที่ถนัด (Dominance Eye) ให้เหมาะกับการมองเห็นระยะไกล และปรับตาข้างที่ไม่ถนัดให้มีสายตาสั้นเล็กน้อยเพื่อรองรับการมองเห็นในระยะใกล้ ซึ่งคนไข้จำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวหลังจากทำเลสิกสายตายาววิธีนี้ เนื่องจากสมองต้องใช้เวลาในการประมวลผลให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งสองระยะ ในช่วงแรกประสิทธิภาพในการมองเห็นตอนกลางคืนอาจลดลงบ้างเล็กน้อย และจะค่อยๆ กลับมาเต็มประสิทธิภาพหลังจากร่างกายปรับตัวได้ 3. Presbylasik เทคโนโลยี Presbymax เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาสายตายาว ทั้งความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิดและภาวะสายตายาวที่เกิดตามวัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นของดวงตาข้างเดียวกันในระยะต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องสวมใส่แว่นตา 4. Laser Blended Vision (LBV) Laser Blended Vision (LBV) เป็นเทคโนโลยีที่แก้ไขปัญหาสายตาได้หลายรูปแบบพร้อมกัน ทั้งสายตายาวตามวัย สายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวแต่กำเนิด ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในทุกระยะด้วยตาข้างเดียวโดยไม่ต้องใช้แว่นสายตา ทำเลสิกสายตายาววิธีนี้ใช้เทคโนโลยีเลสิกแบบไร้ใบมีด หรือเลเซอร์ในการรักษาทุกขั้นตอน เข้าไปปรับแต่งความโค้งของกระจกตาแบบพิเศษที่เรียกว่า Spherical Aberration เพื่อเพิ่มระยะโฟกัสให้มากขึ้น (Depth of Focus) จากนั้นจึงใช้เลเซอร์ปรับแต่งความโค้งของกระจกตาทั้งสองข้างให้แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งวิธีการรักษาจะแบ่งการปรับแต่งตามความถนัดของตาแต่ละข้าง ดังนี้ ตาข้างที่ถนัด (Dominant)จะปรับความโค้งเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยการมองเห็นระยะกลางโดยไม่กระทบการมองระยะไกล ตาข้างที่ไม่ถนัด (Non Dominant)จะปรับความโค้งมากกว่าเพื่อเน้นการมองเห็นในระยะใกล้และระยะกลาง การเตรียมตัวก่อนทำเลสิกสายตายาว ก่อนทำเลสิกสายตายาวหากทราบการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม จะช่วยให้การทำเลสิกผ่านไปอย่างราบรื่น สำหรับคนที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ แนะนำให้สวมแว่นแทนก่อนทำเลสิกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ควรเตรียมลางาน 2-3 วัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เดินทางโดยใช้รถสาธารณะในวันที่มาตรวจ เพราะหลังจากทำแล้วจะมีอาการตาพร่ามัว 6-8 ชั่วโมง แนะนำให้มีผู้ติดตามมาด้วย และควรพกแว่นกันแดด ควรสระผม สวมเสื้อที่มีกระดุมติดหน้าเพื่อให้สะดวกต่อการถอดและสวมใส่ และงดการฉีดน้ำหอม การดูแลตัวเองหลังทำเลสิกสายตายาว หลังจากทำเลสิกสายตายาว ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้ หลังจากทำเลสิก 24 ชั่วโมงแรก ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้มากที่สุด หมั่นหยอดตาตามที่แพทย์แนะนำ สัปดาห์แรกให้ระวังไม่ให้น้ำเข้าตา เช็ดหน้าแทนการล้างหน้า และระมัดระวังบริเวณรอบดวงตา โดยทางโรงพยาบาลจะแนะนำวิธีเช็ดให้ ภายในเดือนแรกจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้ แต่ควรเว้นบางกิจกรรม เช่น ว่ายน้ำ หรือการเข้าซาวน่า หลังจาก 1 เดือนเป็นต้นไป สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติแบบเต็มที่ เลือกโรงพยาบาลทำเลสิกสายตายาวอย่างไรให้ปลอดภัย การเลือกโรงพยาบาลทำเลสิกสายตายาวเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา สามารถพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สถานพยาบาลต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง พร้อมแสดงเลขที่ใบอนุญาตอย่างชัดเจน มีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา โดยเฉพาะในด้านจักษุวิทยาและการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติทางสายตา มีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ โรงพยาบาลที่มีเทคนิคและทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายและครอบคลุม ค่าใช้จ่ายในการรักษาสมเหตุสมผลกับบริการ มีเคสรีวิวจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการที่น่าเชื่อถือ เดินทางสะดวก รองรับจำนวนคนไข้เพียงพอ     ทำเลสิกสายตายาวที่ศูนย์เลเซอร์วิชั่น Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร หากต้องการทำเลสิกสายตายาว แนะนำให้เข้ามาปรึกษาและรักษาอาการเหล่านี้ได้ที่ศูนย์เลเซอร์วิชั่น Bangkok Eye Hospital ที่นี่โดดเด่นด้านการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีจุดเด่นดังนี้ โรงพยาบาลมีทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติ และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เทคโนโลยีสำหรับการรักษาดวงตาสมัยใหม่ เครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อการรักษาดวงตาอย่างแม่นยำและปลอดภัย พร้อมให้การรักษาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ ใส่ใจในการบริการ พร้อมบรรยากาศของโรงพยาบาลที่เป็นกันเอง สรุป สายตายาว คือความผิดปกติของการมองเห็นวัตถุในระยะยาว โดยพบภาวะนี้ได้ทั้งวัยเด็กและวัยสูงอายุ ซึ่งแพทย์ทำการวินิจฉัยถึงสาเหตุของสายตายาวได้หลายวิธีเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมอย่างเช่น การทำ LASIK สายตายาว เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมในการดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังทำ และควรเลือกโรงพยาบาลที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และได้มาตรฐาน สำหรับผู้ที่สนใจบริการเลสิกสายตายาว ที่ศูนย์เลเซอร์วิชั่น Bangkok Eye Hospitalมีเครื่องมือได้มาตรฐานสากล และจักษุแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมดูแลด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคในการรักษาหลากหลายรูปแบบ ให้คุณภาพในการมองเห็นของแต่ละท่านกลับมามีประสิทธิภาพ ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์
calling
ទំនាក់ទំនងមកយើងខ្ញុំ : +662 511 2111