มุมสุขภาพตา

เรียงตาม
กระจกตาเป็นฝ้า : สาเหตุ วิธีการรักษา และทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ
กระจกตาเป็นฝ้า สาเหตุ วิธีการรักษา และทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ ณ ศูนย์รักษาโรคกระจกตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ กระจกตาเปรียบเสมือนหน้าต่างบานแรกที่แสงจะผ่านเข้าสู่ดวงตา หาก "กระจกตา" เกิดขุ่นมัว การมองเห็นย่อมได้รับผลกระทบ "กระจกตาเป็นฝ้า" เป็นภาวะที่กระจกตาสูญเสียความใส ทำให้มองเห็นภาพมัว ไม่ชัดเจน หรือเห็นภาพซ้อน ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สาเหตุของกระจกตาเป็นฝ้า กระจกตาเป็นฝ้าอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส ซึ่งอาจเกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือการบาดเจ็บที่กระจกตา แผลที่กระจกตา เกิดจากการบาดเจ็บ การระคายเคืองจากฝุ่นละออง สารเคมี หรือการติดเชื้อ โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคกระจกตาโค้งผิดปกติ (Keratoconus) ทำให้กระจกตาบางและโป่งนูนผิดปกติ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคตา เช่น โรคตาอักเสบ การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์หยอดตาเป็นเวลานาน การสัมผัสสารเคมี เช่น สารฟอกขาว กรด ด่าง การขาดวิตามินเอ อาการของกระจกตาเป็นฝ้า มองเห็นภาพมัว อาจเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความขุ่นมัวของกระจกตา เห็นภาพซ้อน ตาแดง ปวดตา เคืองตา น้ำตาไหล แพ้แสง วิธีการรักษากระจกตาเป็นฝ้า การรักษากระจกตาเป็นฝ้าขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรง โดยทั่วไปมีวิธีการรักษาดังนี้ การใช้ยา เช่น ยาหยอดตา ยาป้ายตา เพื่อลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อ หรือรักษาตามสาเหตุ การผ่าตัด การปลูกถ่ายกระจกตา : ในกรณีที่กระจกตาเสียหายมาก การขัดกระจกตาด้วยเลเซอร์ : เช่น PTK การรักษาอื่นๆ เช่น การประคบอุ่น การใส่คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษ ศูนย์รักษาโรคกระจกตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ พร้อมดูแลรักษากระจกตาเป็นฝ้าอย่างครบวงจร ด้วย ทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตา : ประสบการณ์สูง เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เครื่องมือที่ได้มาตรฐานสากล ช่วยในการวินิจฉัยและรักษาอย่างแม่นยำ ปลอดภัย เครื่องตรวจวัดความโค้งของกระจกตา (Corneal Topography) เครื่องตรวจวัดความหนาของกระจกตา (Pachymetry) เลเซอร์ Excimer และ เลเซอร์ Femtosecond การดูแลอย่างครบวงจร : ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การรักษา การติดตามผล จนกระทั่งหายเป็นปกติ บริการที่สะดวกสบาย : บรรยากาศเป็นกันเอง ใส่ใจทุกขั้นตอน คืนความใสการมองเห็นที่คมชัดให้กับดวงตาที่ศูนย์รักษาโรคกระจกตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่ 02-511-2111  
อ่านเพิ่มเติม
ศูนย์รักษาต้อกระจก
ศูนย์รักษาจอประสาทตา
ศูนย์รักษาต้อหิน
ศูนย์รักษากระจกตา
ศูนย์รักษาตาเด็ก
ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา
ศูนย์รักษาจักษุประสาทวิทยา
สรุปทำเลสิกแบบไหนดีที่สุด Latest Updates 2024
สรุปทำเลสิกแบบไหนดีที่สุด Latest Updates 2024   หลายท่านกำลังมองหาเทคนิคการทำเลสิกที่ดีและมีประสิทธิภาพในปี 2024 นี้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกทำเลสิกวิธีไหนดี เพราะมีวิธีการทำเลสิกมากมายหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีวิธีการผ่าตัด ระยะเวลาพักฟื้น ราคา และความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป โดยทางเลือกที่ดีที่สุด คือ เราขอแนะนำให้คุณเข้าไปทำการประเมินดวงตาก่อนการผ่าตัดกับจักษุแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินหาวิธีการทำเลสิกที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด    แต่ในแง่ของเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ เราขอแนะนำการผ่าตัดทำเลสิกที่ทันสมัยที่สุดในปี 2024 ซึ่งเป็นการผ่าตัดรักษาสายตาแบบแผลเล็ก ด้วยการผ่าตัดไร้ใบมีด โดยการใช้ Femtosecond Laser ที่ใช้เวลาผ่าตัดน้อยกว่า แผลหายเร็วกว่า มีความปลอดภัยสูงกว่า ที่สำคัญให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่าการทำการทำเลสิกรักษาสายตาแบบแผลเล็ก คืออะไร และมีเทคโนโลยีการรักษาสายตาแบบแผลเล็กตัวไหนบ้างที่น่าสนใจ   การทำเลสิก รักษาสายตาแบบแผลเล็กคืออะไร เทคโนโลยีการทำเลสิกแบบแผลเล็กหรือ SMILE (Small Incision Lenticule Extraction) เป็นหนึ่งในเทคนิคการผ่าตัดเลสิกเพื่อรักษาสายตาสั้นและสายตาเอียงที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อลดการทำลายเนื้อเยื่อของกระจกตาและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านการฟื้นตัว โดยการใช้ Femtosecond Laser เพื่อที่จะแยกชั้นกระจกตา และปรับโค้งกระจกตาตามค่าสายตาในคราวเดียวกัน แล้วจึงนำเนื้อกระจกตาส่วนเกินออกผ่านช่องขนาดเล็ก ปรับเปลี่ยนความโค้งกระจกตา โดยไม่ต้องเปิดฝากระจกตา ซึ่งมีข้อดีเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลข้างเคียงหลังจากผ่าตัดที่จะทำให้ตาแห้งน้อยลง กระจกตาแข็งแรงมากกว่าการทำเลสิกแบบอื่น ๆ  และปัญหาเรื่องเห็นแสงกระจายกลางคืนที่น้อยลง โดยการทำเลสิกแบบแผลเล็กหรือ SMILE ยังมีเทคโนโลยีแบบเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย   เปรียบเทียบเทคโนโลยีการรักษาสายตา NanoRelex® นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการผ่าตัดแผลเล็กที่นำเข้าโดยเลเซอร์วิชั่น ศูนย์เลสิกชั้นนำฯ ในประเทศไทย โดยเลเซอร์วิชั่น ถือเป็นผู้บุกเบิก NanoRelex® แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นนิวเจเนอเรชั่นของรีเล็กซ์ ซึ่งคิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษาสายตาสั้น เอียง และสายตายาว เป็นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูง ในการปรับแต่งเนื้อเยื่อภายในชั้น Stroma ของกระจกตา ด้วยการคำนวณชิ้นเนื้อกระจกตา เป็นรูป 3 มิติ ที่เรียกว่า Lenticule ตามค่าสายตาของแต่ละบุคคล แล้วทำการนำ Lenticule ออกผ่านทางแผลขนาดเล็กประมาณ 2-3 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีการนำระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อวิเคราะห์การรักษา วิเคราะห์ปัญหาสายตา โดยเพิ่มความปลอดภัยของคนไข้ด้วยกล้อง OCT Scan ระหว่างการผ่าตัดทำให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นชั้นกระจกตาได้แบบ Real-time   โดยมีจุดเด่นคือใช้ระยะเวลาผ่าตัดน้อย แผลมีขนาดเล็ก คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด และหลังทำผ่าตัดจะเคืองตาน้อยกว่าวิธีอื่น สามารถแก้ไขสายตาสั้น เอียงได้มากขึ้น โดยที่ยังคงความแข็งแรง ของกระจกตาอยู่ เนื่องจากการผ่าตัดมีแผลเล็ก ทำให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่างๆ เช่น การติดเชื้อหลังผ่าตัด อาการ ตาแห้ง และให้ผลการรักษาที่แม่นยำรวมถึงลดผลกระทบ เช่น ตาแห้ง แสงกระจายในที่มืด และการมองเห็นไม่ชัดในที่แสงน้อย ให้น้อยลงอีกด้วย   ReLEx SMILE Pro เป็นการพัฒนาจากการรักษา ReLEx SMILE แบบปกติ โดยใช้ระยะเวลาการยิงเลเซอร์ เพียง 8-10 วินาที มีความเร็วมากกว่า ReLEx SMILE ถึง 3 เท่า ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด และเพิ่มความสบายตาของคนไข้ในขณะการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดไร้ใบมีด ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน โดยใช้ Visumax 800 Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตาให้เป็นเลนส์ในเนื้อกระจกตา (Lenticule) เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา ให้เหมาะสมกับค่าสายตาที่ต้องการแก้ไข โดยไม่ทำลายผิวกระจกตาชั้นนอกสุด   ข้อดี คือ มีความแม่นยำสูง ความโค้งกระจกตายังคงแข็งแรงแม้ผ่านการผ่าตัดแล้ว เกิดผลข้างเคียงเช่นตาแห้ง แสงกระจายในที่มืด และการมองเห็นไม่ชัดในที่แสงน้อยน้อยลง พักฟื้นเพียงระยะสั้นก็กลับมาใช้สายตาได้ปกติ   Smart Sight เทคโนโลยี SmartSight เป็นการใช้ SCHWIND ATOS Femtosecond Laser โดยบริษัท SCHWIND eye-tech-solutions GmbH จากประเทศเยอรมนี เป็นการผ่าตัดรักษาสายตาแผลเล็กเช่นเดียวกัน โดยเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากการผ่าตัดแบบ ReLEx โดยการเสริมให้มีระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยควบคุมและคำนวณการแยกชั้นกระจกตาให้เป็นเลนส์ รวมถึงมีระบบการจดจำรูม่านตา ติดตามการเคลื่อนไหวและการหมุนของดวงตา ก่อนทำการผ่าตัดและขณะทำการผ่าตัด   การผ่าตัดใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน เป็นการผ่าตัดไร้ใบมีด จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในขณะผ่าตัด ระคายเคืองตาน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ ระยะพักฟื้นสั้น สามารถกลับมาใช้สายตาได้เร็ว โอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการตาแห้ง, แสงกระจายในที่มืด, ความไม่คมชัดในที่แสงน้อย ก็น้อยกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากไม่มีการเปิดชั้นกระจกตา แถมยังลดโอกาสเติมเลเซอร์น้อยกว่าการผ่าตัดประเภทอื่น ๆ เนื่องจากผลการวิเคราะห์และการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ที่สำคัญคือ การรักษาความโค้งกระจกตาหลังการรักษา ให้มีความใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด   การรักษาแบบไหนเหมาะสมกับตัวเรากันแน่? การรักษาค่าสายตาผิดปกติที่ดีที่สุด คือ การเลือกแนวทางในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะสมกับดวงตาของเรามากที่สุด โดยการทำเลสิกแบบแผลผ่าตัดเล็กเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ทรงประสิทธิภาพมากในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความแม่นยำในการประเมินและการผ่าตัด รวมไปถึงการลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงในหลายด้าน โดยเทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาค่าสายตาผิดปกติแบบแผลเล็กไม่ว่าจะเป็น NanoRelex®, ReLEx SMILE Pro หรือ Smart Sight ต่างมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างกัน    ดังนั้นคุณจึงควรพิจารณาความเหมาะสมอื่น ๆ ที่เหมาะกับตัวคุณเอง เช่น สถานที่ตั้งของสถานพยาบาลที่ใกล้บ้าน ราคาที่เหมาะสม โปรโมชั่น การให้บริการในระหว่างการดูแลรักษาและการดูแลหลังผ่าตัดเสร็จ และที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด คือ ความปลอดภัยของสถานพยาบาลที่คุณตัดสินใจใช้บริการ ที่ต้องมีความเป็นมืออาชีพ ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างแท้จริง และการให้บริการที่มีมาตรฐานสากลรองรับในเรื่องของความปลอดภัยทางการแพทย์   ศูนย์รักษาสายตา ศูนย์เลสิกชั้นนำของไทยที่ Laser Vision ศูนย์รักษาสายตานานาชาติ เลเซอร์วิชั่น เป็นศูนย์รักษาสายตาผิดปกติ ที่มีครบทุกทางเลือก โดยมุ่งเน้นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และการบริการที่ประทับใจ โดยมีนวัตกรรม NanoRelex® การผ่าด้วยแผลเล็กด้วยเลเซอร์ ที่เป็นเอกสิทธิ์ในไทยเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของเครื่อง Femtosecond Laser ที่ใช้พลังงาน น้อยลงระดับนาโนจูลย์ ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด และหลังทำผ่าตัดจะเคืองตาน้อยกว่าวิธีอื่น ทั้งยังนำนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่าง AI เข้ามาใช้เพื่อวิเคราะห์การรักษา วิเคราะห์ปัญหาสายตา โดยเพิ่มความปลอดภัยของคนไข้ด้วยกล้อง OCT Scan ระหว่างการผ่าตัดทำให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นชั้นกระจกตาได้แบบ Real-time สามารถแก้ไขสายตาสั้น เอียงได้มากขึ้น โดยที่ยังคงความแข็งแรง ของกระจกตาอยู่ ช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องตาแห้งและผลข้างเคียงอื่น ๆ หลังผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก ให้คุณใช้ชีวิตเป็นปกติได้เร็วขึ้น   โดยศูนย์เลสิก Laser Vision มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ในการรักษาสายตา สั้น ยาว เอียง และ อื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยทีมแพทย์ที่นำทีมโดยรศ.นพ. อนันต์ วงศ์ทองศรี ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและการแก้ไขสายตาผิดปกติเลสิก (LASIK) ที่มีประสบการณ์อย่างสูงมาตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี เราจึงเป็นศูนย์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าเป็นศูนย์ที่มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ในการให้บริการรักษาสายตาผิดปกติ และยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของสถานที่สะดวกสบาย และพนักงานที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ ให้คุณสามารถไว้วางใจฝากฝังดวงตาที่มีเพียงคู่เดียวของคุณไว้ในมือเราได้อย่างไร้กังวล
ศูนย์รักษาต้อกระจก
ศูนย์รักษาจอประสาทตา
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ศูนย์รักษาต้อหิน
ศูนย์รักษากระจกตา
ศูนย์รักษาตาเด็ก
ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา
ศูนย์รักษาจักษุประสาทวิทยา
Understanding Pterygium: Causes, Symptoms, and Treatment Options
  How people notice and see Pterygium without knowing it is Pterygium   Have you ever looked in the mirror and noticed a small, fleshy growth on the white part of your eye, usually near the nose? It might appear slightly red, or you might feel like something’s stuck in your eye. This growth can slowly creep onto the clear, center part of your eye, known as the cornea, causing discomfort, dryness, or even blurred vision. Many people mistake these signs for simple irritation, dryness, or tired eyes, unaware that they might be dealing with a condition called pterygium.   1. What is Pterygium? Pterygium (pronounced tuh-RIJ-ee-um) is a common eye condition that looks like a triangular or wedge-shaped growth on the eye’s surface. It usually starts small but can slowly expand toward the cornea. Though it might look concerning, it’s not cancerous. For some, it’s just a minor cosmetic issue, but for others, it can cause vision problems or significant discomfort   2. Why does it happen? Pterygium happens mainly due to long-term exposure to UV light from the sun, which is why it’s often called "surfer’s eye." But you don’t have to be a surfer to get it - anyone who spends a lot of time outdoors, especially without proper eye protection, is at risk. Dust, wind, and dry environments can also irritate the eye and contribute to its development. Genetics can play a part, too, as pterygium is more common in certain families. Pinguecula and pterygium are often mistaken for each other. Pinguecula is a yellowish bump on the conjunctiva, while pterygium extends onto the cornea and can affect vision. Proper diagnosis is key.   3. What to do when you notice it? If you spot a growth on your eye or feel persistent discomfort, dryness, or redness, don’t ignore it. Make an appointment with an eye specialist, especially if it’s growing or starting to affect your vision. The doctor can diagnose pterygium with a simple eye exam and discuss whether it needs to be treated right away or monitored over time.   4. Treatment Options Observation and Protection: In mild cases, protecting your eyes from the sun with sunglasses and using lubricating eye drops can help keep symptoms in check. Medication: If the pterygium becomes red and inflamed, doctors may prescribe anti-inflammatory eye drops to reduce irritation.  Surgery: When pterygium grows too large, affects vision, or causes significant discomfort, surgery to remove the growth may be recommended. This involves removing the tissue and often placing a graft (a small piece of your own conjunctiva) to cover the area and reduce the chance of it coming back.   5. Advice from Bangkok Eye Hospital and Next Steps At Bangkok Eye Hospital, our experienced ophthalmologists often see patients who are unsure what’s causing their eye discomfort or unusual growths. It’s essential to address these concerns early to avoid complications. If surgery is necessary, one of the best innovations available today is using fibrin glue during pterygium surgery, which offers many benefits over traditional stitches.     To learn more about how fibrin glue can improve your recovery and comfort, check out our next article on this advanced treatment here. If you’re experiencing symptoms or want a consultation, don’t hesitate to reach out to Bangkok Eye Hospital - our team is here to guide you through every step of your eye care journey.
ศูนย์รักษาต้อกระจก
ศูนย์รักษาจอประสาทตา
ศูนย์รักษาต้อหิน
ศูนย์รักษากระจกตา
ศูนย์รักษาตาเด็ก
ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา
ศูนย์รักษาจักษุประสาทวิทยา
Monkeypox and Eye Health: What You Need to Know
Monkeypox and Eye Health: What You Need to Know Monkeypox, a rare viral disease similar to smallpox, has been making headlines due to recent outbreaks in various parts of the world. While it primarily affects the skin, the virus can also have serious implications for eye health. Understanding how monkeypox can impact your eyes and knowing the preventive measures can help protect your vision if you are at risk of exposure. What is Monkeypox? Monkeypox is caused by the monkeypox virus, which belongs to the Orthopoxvirus genus. The disease is characterized by fever, headache, muscle aches, and a distinctive rash that progresses from macules to papules, vesicles, and eventually scabs. The rash often begins on the face and spreads to other parts of the body, including the eyes. Fun Fact: Despite its name, monkeypox doesn’t actually come from monkeys. The virus was first identified in laboratory monkeys in 1958, which led to its name. However, the primary carriers of the virus in the wild are rodents, such as rats and squirrels, not monkeys. How Can Monkeypox Affect the Eyes? Monkeypox can lead to several eye-related complications, the most concerning of which is monkeypox keratitis. This condition occurs when the virus infects the cornea, the clear front part of the eye. Symptoms of monkeypox keratitis include redness, pain, blurred vision, and sensitivity to light. If not treated promptly, keratitis can cause scarring of the cornea, leading to permanent vision loss. Other potential eye complications include conjunctivitis (inflammation of the conjunctiva, the membrane covering the white part of the eye) and blepharitis (inflammation of the eyelids). These conditions can cause discomfort and, in severe cases, may also lead to vision impairment.Prevention: Protecting Your Eyes from Monkeypox Preventing monkeypox infection, including its effects on the eyes, involves several key strategies: Avoid Contact with Infected Individuals: Monkeypox spreads through close contact with an infected person’s skin lesions, body fluids, or respiratory droplets. If you are in an area with known monkeypox cases, avoid close contact with infected individuals and wear protective gear if necessary. Practice Good Hygiene: Regular handwashing with soap and water, avoiding touching your face (especially your eyes), and using alcohol-based hand sanitizers can reduce the risk of infection. Vaccination: The smallpox vaccine has been shown to be effective against monkeypox. If you are at high risk (e.g., healthcare workers, people in affected areas), getting vaccinated may provide protection. Protect Your Eyes: If you are caring for someone with monkeypox or are in an area with an outbreak, consider wearing protective eyewear to reduce the risk of the virus coming into contact with your eyes.   Solutions: What to Do If Your Eyes Are Affected If you suspect that monkeypox has affected your eyes, seek medical attention immediately. Early intervention is crucial to prevent serious complications. Treatment may include: Antiviral Medications: While there is no specific treatment for monkeypox, antiviral drugs like tecovirimat (Tpoxx) may be used under certain conditions to reduce the severity of symptoms. Topical Treatments: In cases of keratitis or conjunctivitis, antiviral eye drops or ointments may be prescribed to control the infection and prevent complications. Supportive Care: Managing symptoms like pain and inflammation through over-the-counter medications or prescribed treatments can help alleviate discomfort.   Conclusion   Monkeypox is more than just a skin disease; its effects can extend to the eyes, posing a risk to vision. By understanding how monkeypox can affect the eyes and taking preventive measures, you can protect your vision and overall health. If you experience any eye-related symptoms after exposure to monkeypox, seek medical care immediately to ensure the best possible outcome.Concerned about keratitis or other eye conditions? Don’t wait—schedule a comprehensive eye exam at [Hospital Name] today. Early detection and treatment of keratitis can preserve your vision and keep your eyes healthy. Trust your vision to the experts, call: +66982255691.
ศูนย์รักษาต้อกระจก
ศูนย์รักษาจอประสาทตา
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ศูนย์รักษาต้อหิน
ศูนย์รักษากระจกตา
ศูนย์รักษาตาเด็ก
ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา
ศูนย์รักษาจักษุประสาทวิทยา
How to Keep Your Eyes Safe During Sports | Essential Eye Health Tips
  Whether you're an elite athlete or enjoy sports as a weekend hobby, your eyes are one of your most valuable assets. Good vision enhances your performance, while eye injuries can not only sideline you from the game but also affect your daily life. At Bangkok Eye Hospital, we’re dedicated to helping everyone—professional athletes and casual players alike—understand the importance of eye health in sports. This blog provides essential tips to keep your eyes safe and your vision sharp, no matter your level of activity.   Why Eye Health Matters in Sports: Performance Enhancement: Clear and precise vision is key to success in sports, from accurately judging distances to reacting quickly to fast-moving objects. Prevention from Injury: Protecting your eyes can prevent serious injuries that may not only impact your performance but also your overall quality of life. Long-Term Vision Safety: Taking care of your eyes today can prevent vision problems later in life, ensuring you can continue enjoying sports and other activities.   Common Sports-Related Eye Injuries: Blunt Trauma: Sports like basketball, football, and baseball can lead to injuries from impact, which can cause anything from minor bruising to serious conditions like retinal detachment. Serious Injuries: In contact sports like boxing, karate, or taekwondo, direct hits or accidental jabs from opponents can result in severe and dangerous injuries, including cuts, fractures, or even eye injuries that require immediate medical attention. UV Damage: Prolonged exposure to the sun during outdoor sports can lead to harmful effects on the eyes, increasing the risk of cataracts and other conditions. Tips for Keeping Your Eyes Healthy: Stay Hydrated: Proper hydration is important to keep your eyes moist and comfortable, reducing the risk of dry eyes during and after sports. Balanced Diet: Eating a diet rich in vitamins A, C, and E, along with Omega-3 fatty acids, supports eye health and can improve your visual performance. Avoid Touching Your Eyes: During sports, your hands can pick up dirt and bacteria, which can lead to eye infections if you rub your eyes. Always wash your hands thoroughly before touching your eyes.   Need Expert Eye Care? We are here for you. Comprehensive Eye Exams: Our specialists and well-trained medical teams offer detailed eye examinations tailored to your specific needs, whether you’re an athlete or enjoy sports recreationally. Personalized Vision Solutions: From prescription sports eyewear to LASIK surgery, we offer a range of treatment services designed to enhance your visual performance and protect your eyes. Innovative Eye Care Technologies: We operate on a cutting-edge smart hospital concept, integrating AI and advanced technologies to ensure the highest effectiveness in our treatment programs. Our commitment to innovation drives us to take patient care to the next level, providing you with the most advanced and personalized eye care available.   Your Eyes Deserve Expert Care — Call Now to Schedule Your Examination! Whatsapp: +66982255691 Email: info@bangkokeyehospital.com
ศูนย์รักษาตาเด็ก
การควบคุมภาวะสายตาสั้นในเด็ก
การควบคุมภาวะสายตาสั้นในเด็ก เนื่องจากสายตาสั้นในเด็กเป็นภาวะที่ไม่สามารถทำให้หายขาดได้แต่สามารถควบคุมให้เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดหรือเพิ่มขึ้นช้าลง ทางการเเพทย์จึงใช้คำว่าควบคุมแทนคำว่ารักษา แน่นอนว่าลักษณะดวงตาและสภาวะสายตาของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการวินิจฉัยจากจักษุเเพทย์ก่อน เพื่อประเมินเข้ารับการใช้ยาหรือใส่คอนเเทคเลนส์เพื่อควบคุมสายตาสั้นสำหรับเด็ก   คุณสมบัติและลักษณะเบื้องต้นของเด็กที่ควรเข้ารับการควบคุมสายตาสั้น มีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 12 ปีและได้รับการวินิจฉัยว่ามีสายตาสั้นตั้งแต่อายุน้อยๆ เด็กกลุ่มอายุนี้มีโอกาสที่จะตอบสนองต่อการควบคุมสายตาสั้นได้ดีเนื่องจากดวงตายังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ เด็กที่มีภาวะสายตาสั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว(เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งร้อยต่อปี) เด็กที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่สายตาสั้นมาก เนื่องจากมีโอกาสสูงที่เด็กจะมีสายตาสั้นมากเช่นกัน   ทำไมเด็กๆ จึงควรที่จะได้รับการวินิจฉัยและเข้ารับการควบคุมสายตาสั้น นอกจากอาการมองไม่ชัดแล้วสำหรับเด็กๆที่มีสายตาสั้นยังมีความเสื่ยงอื่นๆที่จะมีภาวะเเทรกซ้อนร่วมด้วย เช่น โรคจอประสาทตาหลุดหรือโรคต้อหิน โรคมาร์แฟนซินโดรม    ปัจจัยอื่นๆที่ควรพิจารณาก่อนเข้ารับการควบคุมสายตาสั้นโดยจักษุเเพทย์ ความส่ํมาเสมอเเละวินัยของเด็ก - เนื่องจากวิธีการควบคุมสายตาสั้นโดยใช้คอนแทคเลนส์หรือการให้ยาต้องมีความส่ํมาเสมอเพื่อให้เห็นผลการรักษา ความเข้าใจในผลข้างเคียง - เนื่องจากการใช้ยาหยอดตาจะมีผลข้างเคียงบางอย่างเช่นมองเห็นใกล้ๆไม่ชัด ซึ่งในบางครั้งเด็กๆอาจจะทนไม่ได้   ท้ายที่สุดแล้วแพทย์และผู้ปกครองควรตัดสินใจร่วมกันเพื่อนพิจารณาการควมคุมสายตาสั้นในเด็กเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงที่สุด  
ศูนย์รักษาตาเด็ก
3 สัญญาณเตือนว่าลูกน้อยอาจมีปัญหาสายตา
3 สัญญาณเตือนว่าลูกน้อยอาจมีปัญหาสายตา   หรี่ตาหรือเอียงคอมอง: ถ้าลูกชอบหรี่ตาหรือเอียงคอเวลาจะมองอะไรไกลๆ เช่น ดูทีวีหรือมองกระดาน อาจเป็นสัญญาณว่ามองไม่ค่อยชัด ชอบเอาของมาดูใกล้ๆ: ถ้าลูกชอบเอาหนังสือหรือของเล่นมาจ่อใกล้หน้า หรือต้องเข้าไปดูทีวีใกล้กว่าปกติ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าลูกกำลังมีปัญหาสายตา ขยี้ตาบ่อยๆ: ถึงแม้บางทีเด็กๆ จะขยี้ตาเพราะง่วงหรือเมื่อยล้า แต่ถ้าขยี้ตาบ่อยเกินไป ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกกำลังมีปัญหาสายตาได้เหมือนกัน   สัญญาณอื่นๆ ที่พ่อแม่ควรสังเกต   สมาธิสั้นเวลาต้องใช้สายตา: เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือวาดรูป อ่านหนังสือแล้วชอบหลงบรรทัด: หรืออ่านข้ามๆ ไปบ้าง ไม่อยากทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา: เช่น ต่อจิ๊กซอว์ ระบายสี หรือเล่นตัวต่อ   ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ในตัวลูก อย่ารอช้า รีบพาลูกไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจเช็กสายตานะคะ การตรวจพบและรักษาปัญหาสายตาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสายตาที่ดี และเติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีค่ะ ติดต่อ ศูนย์รักษาสายตาเด็ก - โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ โทร 02-023-9929, 02-511-2111
ที่อยู่
ศูนย์โรคตาเด็ก - โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ

10/989 ซ.ประเสริญมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

ช่องทางติดต่อ