วิธีรักษาต้อกระจกด้วยการผ่าต้อกระจกมีกี่แบบ ผ่าต้อกระจกที่ไหนดี
การผ่าต้อกระจกคือการกำจัดเลนส์ตาขุ่นและใส่เลนส์ตาเทียมเพื่อคืนวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
วิธีรักษาต้อกระจกมี 4 วิธี คือการสลายต้อ ใช้เลเซอร์ ผ่าตัดเอาออกทั้งก้อน และผ่าตัดแผลเล็ก
ผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดหลังผ่าต้อกระจก ได้แก่ การมีเลือดออกในลูกตา การติดเชื้อ ภาวะจอประสาทตาหลุดลอก เลนส์ตาเทียมเลื่อนหลุด ปวดตา และการมองเห็นผิดปกติ
รักษาต้อกระจกที่ Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) เพราะที่นี่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านดวงตา พร้อมให้บริการโดยจักษุแพทย์ด้านต้อกระจก อุปกรณ์ทันสมัย และการดูแลที่ใกล้ชิดเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด
การผ่าต้อกระจกเป็นการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเลนส์ตาขุ่นมัวหรือเปลี่ยนแปลง ทำให้การมองเห็นลดลง วิธีการเตรียมตัวก่อนและดูแลหลังการผ่าตัดมีความสำคัญเพื่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่ดี รวมถึงการเลือกผ่าต้อกระจกที่ไหนดี? ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมผ่านปัจจัยต่างๆ ที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
การผ่าต้อกระจกคืออะไร
การรักษาต้อกระจกแตกต่างจากการรักษาต้อลมและต้อเนื้อเพราะมีเพียงวิธีเดียว คือ การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา ซึ่งถือเป็นวิธีการรักษามาตรฐานทั่วโลก และสามารถทำได้ทั้งหมด 3 เทคนิควิธี ได้แก่
1. ผ่าต้อกระจกโดยการสลายต้อ (Phacoemulsification)
การผ่าตัดสลายต้อกระจกเป็นการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็กมากประมาณ 2.6-3 มิลลิเมตร จึงไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล ซึ่งทำให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของจักษุแพทย์และความซับซ้อนของเคส นอกจากนี้การใส่เลนส์ตาเทียมใหม่ยังช่วยแก้ไขสายตาสั้น ยาว เอียง หรือสายตามองใกล้ผิดปกติได้อีกด้วย
2. ผ่าต้อกระจกโดยใช้เลเซอร์ (Femtosecond Laser-Assisted Cataract Surgery)
การรักษาต้อกระจกด้วยเลเซอร์Femtosecond Laserช่วยในขั้นตอนการเปิดแผล การเปิดถุงหุ้มเลนส์ และการแบ่งเลนส์ต้อกระจกให้เป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้การสลายและดูดออกด้วยอัลตราซาวนด์ง่ายขึ้น
เนื่องจาก Femtosecond Laser ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ จักษุแพทย์จึงวางแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดแผลจะมีความแม่นยำสูง สามารถเปิดถุงหุ้มเลนส์ให้มีขนาดตามต้องการ และวางเลนส์แก้วตาเทียมให้อยู่ตำแหน่งตรงกลางได้ดี ช่วยแก้ไขสายตาเอียงให้ได้องศาที่ต้องการ
3. การผ่าตัดต้อกระจกแผลเล็ก (MSICS: Manual Small Incision Cataract Surgery)
เทคนิคการผ่าตัดที่เอาต้อกระจกทั้งก้อนออกผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณตาขาวที่ปิดเองได้โดยไม่ต้องเย็บแผล มีถุงหุ้มเลนส์ยังคงอยู่ในตา แผลผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีขนาดเล็กกว่าวิธีผ่าต้อกระจกโดยวิธีเอาออกทั้งก้อน แต่ใหญ่กว่าวิธีผ่าต้อกระจกโดยใช้เลเซอร์ นอกจากนี้การไม่ต้องเย็บแผลช่วยลดปัญหาการเกิดสายตาเอียงที่อาจเกิดจากการผ่าตัด ฟื้นตัวเร็วกว่าและลดจำนวนครั้งในการพบแพทย์เพื่อการติดตามผลการรักษาหลังผ่าตัด
ชนิดของเลนส์ตามเทียมที่ใส่หลังผ่าต้อกระจก
การผ่าต้อกระจกมักจะตามมาด้วยการใส่เลนส์ตาเทียมเพื่อช่วยปรับการมองเห็นให้ชัดเจนขึ้น มีชนิดของเลนส์ตาเทียมหลายประเภทให้เลือก ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันไป ดังนี้
Monofocal IOLเลนส์ตาเทียมชนิดมองไกลได้ระยะเดียวสามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้นหรือสายตายาวที่มีอยู่เดิมก่อนการผ่าตัดได้ เป็นเลนส์ตาเทียมที่ได้รับความนิยมมากในโรงพยาบาลทั่วไปในประเทศไทย
Toric IOLเลนส์ตาเทียมชนิดที่แก้ไขปัญหาสายตาเอียงได้
Multifocal IOLเป็นเลนส์ตาเทียมที่มองเห็นได้หลายระยะ ใช้กันแพร่หลายในต่างประเทศและในโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
ผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าต้อกระจก
ผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าต้อกระจก ได้แก่ การมีเลือดออกในลูกตาหรือเบ้าตาจากการฉีดยาชา กระจกตาขุ่นมัวเนื่องจากเซลล์ตาไม่แข็งแรง การติดเชื้อ จอประสาทตาหลุดลอก ปวดตาแสงจ้า และเลนส์แก้วตาเทียมเลื่อนหลุด อาการรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสียดวงตาหรือการมองเห็น
ภาวะเหล่านี้พบได้น้อยมากและอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือน หรือหลายปีหลังการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ป่วยในการดูแลตนเองหลังผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนผ่าต้อกระจก
การเตรียมตัวก่อนผ่าต้อกระจกจึงมีความสำคัญ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
ฝึกนอนหงาย โดยมีผ้าคลุมบริเวณใบหน้า นานประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้หายใจใต้ผ้าคลุมจนชิน เนื่องจากตอนผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องนอนคลุมผ้าในลักษณะคล้ายกัน
ในวันผ่าตัด ให้อาบน้ำสระผม ล้างหน้า และงดทาแป้ง ครีม หรือแต่งหน้าก่อนมาโรงพยาบาล
รับประทานอาหารเช้าและยาโรคประจำตัวตามปกติ ยกเว้นยาที่แพทย์สั่งให้งด เช่น แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด
ถอดของมีค่า เครื่องประดับ และฟันปลอม
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตาแดง เคืองตา มีขี้ตา หรือเป็นหวัด ไอ จาม กรุณาแจ้งแพทย์หรือพยาบาล เพื่อรักษาให้หายก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ในวันผ่าตัด ควรมีญาติหรือเพื่อนมาด้วยอย่างน้อย 1 คน เนื่องจากผู้ป่วยจะต้องปิดตาข้างที่ผ่าตัดกลับบ้าน
การดูแลหลังผ่าต้อกระจก
เพื่อให้ไม่มีการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดต้อกระจก ควรดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด โดยมีขั้นตอนดังนี้
สวมแว่นกันแดดหรือแว่นสายตาตลอดเวลา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกระทบกระแทก หากไม่มีให้ครอบตาด้วยฝาครอบตาที่โรงพยาบาลจัดให้
ใช้ฝาครอบตาก่อนเข้านอนทุกคืนเพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้สึกตัว
ควรนอนหงายเป็นหลัก แต่สามารถนอนตะแคงได้โดยเอาตาข้างที่ผ่าตัดขึ้นด้านบน
อ่านหนังสือและดูโทรทัศน์ได้ แต่ควรหยุดพักเมื่อรู้สึกแสบตา
สามารถทำกิจวัตรประจำวันเบาๆ เช่น เดินเล่น หรือ ไปทานอาหารนอกบ้าน แต่ไม่ควรก้มศีรษะต่ำกว่าเอว
ไม่ควรยกของหนัก หลีกเลี่ยงการไอ จาม เบ่งอย่างรุนแรง ห้ามขยี้ตา และระวังการลื่นหกล้ม
อาบน้ำได้ โดยไม่ให้น้ำเข้าตา การสระผมควรนอนสระที่ร้าน หรือให้ผู้อื่นสระให้ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าตา
สามารถแปรงฟัน และล้างใบหน้าครึ่งล่างได้ โดยไม่ควรให้น้ำกระเด็นเข้าตา
ทำความสะอาดบริเวณเปลือกตาและใบหน้า โดยใช้สำลีหรือผ้าสะอาดชุบน้ำ เช็ดหน้าและเปลือกตาจากหัวตาไปหางตา
หลีกเลี่ยงการทำสวน รดน้ำ พรวนดิน ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหารที่มีไอหรือควัน 7 วัน
หยอดยาตามแพทย์สั่ง และมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
ผ่าต้อกระจกราคาเท่าไร ควรผ่าที่ไหนดี
ราคาการผ่าต้อกระจกในประเทศไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 20,000 ถึง 80,000 บาท หรือมากกว่านั้น สามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และเงื่อนไขสุขภาพดวงตาของแต่ละบุคคล เช่น โรงพยาบาลที่เลือกรักษา ประเภทของเลนส์แก้วตาเทียมที่ใช้ เทคนิคการผ่าตัด การใช้เลเซอร์ช่วยผ่าตัด และความซับซ้อนของเคส รวมถึงการบริการเสริมอื่นๆ เช่น การตรวจหลังผ่าตัดและการติดตามผล
วิธีการเลือกโรงพยาบาลผ่าต้อกระจก ควรเลือกโรงพยาบาลที่มีจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านต้อกระจก พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และใช้เครื่องมือทันสมัยในการรักษาต้อกระจก เพื่อให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัยมากที่สุด
สรุป
การผ่าต้อกระจกคือการนำเลนส์ตาขุ่นออกและใส่เลนส์เทียมใหม่เพื่อฟื้นฟูการมองเห็นทำได้ 4 วิธี คือผ่าตัดสลายต้อ ผ่าตัดโดยเลเซอร์ ผ่าตัดออกทั้งก้อน และผ่าตัดแบบแผลเล็ก ก่อนผ่าควรเตรียมตัวตามคำแนะนำแพทย์ และหลังผ่าต้องดูแลตาอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงของผลแทรกซ้อน
สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาต้อกระจก สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์โรคต้อกระจก Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)ซึ่งให้การดูแลและรักษาโรคและอาการที่เกี่ยวข้องกับดวงตาอย่างครบวงจร