“ตาแพ้แสง” คือภาวะที่ดวงตาเกิดความไม่สบาย หรือระคายตาเมื่อสัมผัสกับแสงประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด แสงจากหลอดไฟ หรือแม้แต่แสงจากเปลวไฟ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการนี้มักไม่รุนแรงและสามารถบรรเทาได้ง่ายๆ ด้วยการสวมแว่นกันแดดคุณภาพดี อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการแพ้แสงอย่างรุนแรงจนรู้สึกเจ็บปวดดวงตาอย่างมาก อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีปัญหาสุขภาพตาที่แฝงอยู่ ผู้ป่วยควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
อาการตาแพ้แสงไม่ได้สร้างความรำคาญในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพตาที่ร้ายแรง มาสังเกตอาการ สาเหตุ และวิธีรักษาในบทความนี้กัน!
|
ตาแพ้แสง หรือ Photophobia คืออาการที่ดวงตามีความไวต่อแสงมากผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถทนต่อแสงจากธรรมชาติ โคมไฟ หรือแม้แต่จอคอมพิวเตอร์ได้ ผู้ที่มีอาการมักจะประสบกับความไม่สบายตา ต้องหรี่ตาเมื่อเจอแสง อาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา หรือมีน้ำตาไหลมากกว่าปกติ โดยมีข้อสังเกตว่าผู้ที่มีดวงตาสีอ่อนมักมีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่มีดวงตาสีเข้ม เนื่องจากมีเม็ดสีน้อยกว่า ทำให้ความสามารถในการปกป้องดวงตาจากแสงลดลง ส่งผลให้แสงสามารถทะลุผ่านเข้าสู่ภายในดวงตาได้มากกว่า
อาการตาแพ้แสงมีสาเหตุที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เริ่มจากพฤติกรรมการใช้สายตาอย่างหนัก เช่น การเพ่งมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานๆ ซึ่งนำไปสู่อาการตาแห้งและตาล้า ส่งผลให้ดวงตาเกิดความไวต่อแสงมากขึ้น
นอกจากนี้ ความผิดปกติทางตาหลายอย่าง เช่น ตาอักเสบ ตาติดเชื้อ หรือแผลกระจกตา รวมถึงการมีรูม่านตาขนาดใหญ่กว่าปกติ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้ามคือการใช้ยาบางประเภท ทั้งยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาทาสิว ยาแก้อักเสบ หรือยาคุมกำเนิด ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงทำให้ตาไวต่อแสง รวมถึงการใส่คอนแท็กต์เลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับดวงตา และผู้ที่มีอาการไมเกรนก็มักพบอาการตาแพ้แสงร่วมด้วยเช่นกัน
สำหรับการวินิจฉัยอาการตาแพ้แสงในเบื้องต้นแพทย์จะสอบถามอาการที่เกิดขึ้น เช่น มีสารคัดหลั่งจากดวงตา มีไข้ หรืออาการเจ็บป่วยที่อาจเป็นสาเหตุของตาแพ้แสง ก่อนที่จะทดสอบเพิ่มเติมตามดุลยพินิจทางการแพทย์เพื่อวินิจฉัยและให้การรักษาที่เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย
โดยทั่วไปอาการตาแพ้แสงที่ไม่รุนแรงมากสามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น การปรับแสงในห้องให้มืดลงโดยปิดไฟหรือม่าน หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงหรือแสงไฟจ้าในอาคาร และเมื่อจำเป็นต้องอยู่ในที่มีแสงสว่าง อาจใช้วิธีหลับตาชั่วคราวหรือสวมแว่นตากันแดดเพื่อปกป้องดวงตา
อย่างไรก็ตาม หากอาการตาแพ้แสงทวีความรุนแรงจนก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากเมื่อสัมผัสกับแสงในรูปแบบต่างๆ ผู้ป่วยควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาอาการตาแพ้แสงตามสาเหตุที่แท้จริง
ตาแพ้แสงเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางอย่างป้องกันได้ยาก เช่น โรคไมเกรน แต่หลายกรณีสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีการป้องกันที่เหมาะสม ซึ่งการรู้จักสาเหตุและการป้องกันจะช่วยให้จัดการกับอาการตาแพ้แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อาการตาแพ้แสงมีความรุนแรงหลากหลายระดับ ตั้งแต่อาการเล็กน้อยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ไปจนถึงอาการรุนแรงที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต หากพบว่าตัวเองมีปัญหาในการดำเนินกิจวัตรประจำวัน เช่น ไม่สามารถขับรถตอนกลางคืนได้ หรือมีอาการปวดตาเป็นประจำ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
โดยเฉพาะเมื่อมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น แสบตา ตาอักเสบ ปวดหัว หรือมีน้ำตาไหลบ่อยครั้ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาที่ตรงจุดและทันท่วงที
มีโอกาสหายจากอาการแพ้แสงได้ โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นปัจจัยหลัก หากการรักษาสามารถแก้ไขได้ตรงจุดที่สาเหตุ บางคนอาจหายขาด ขณะที่บางคนอาจมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หรือในบางกรณีอาจหายได้แต่ต้องใช้เวลารักษานานกว่าปกติ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด พยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้แสง และไม่ลืมสวมแว่นตาที่มีคุณสมบัติช่วยลดแสง
คอนแท็กต์เลนส์ที่สกปรกหรือใช้งานเกินเวลาที่กำหนดเป็นสาเหตุของการระคายตาและภาวะตาแพ้แสง ซึ่งอาจส่งผลให้รู้สึกแสบตา น้ำตาไหล และรู้สึกไม่สบายเมื่อต้องอยู่ในที่ที่มีแสงจ้า การดูแลทำความสะอาดเลนส์อย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนตามกำหนดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องสุขภาพดวงตาและรักษาคุณภาพการมองเห็นในระยะยาว
สำหรับแว่นตาที่เหมาะกับคนตาแพ้แสงมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับค่าสายตาและการใช้งาน
หากมีอาการตาแพ้แสง มาปรึกษาและรักษาได้ที่ Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) เพื่อการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยจักษุแพทย์ผู้มากความรู้เกี่ยวกับดวงตาและและทีมงานที่มีประสบการณ์ และจุดเด่นดังนี้
ตาแพ้แสง คืออาการที่ดวงตาไวต่อแสงผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถทนต่อแสงธรรมชาติ แสงไฟ หรือแสงจากจอคอมพิวเตอร์ได้ ผู้ที่มีอาการมักจะหรี่ตาเมื่อเจอแสง เกิดตาแห้ง เคืองตา หรือมีน้ำตาไหลมากกว่าปกติ ตาแพ้แสงอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วยเช่นกัน สาเหตุมีทั้งจากพฤติกรรมการใช้สายตาหนักเกินไป เช่น การเพ่งจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และจากความผิดปกติทางตา เช่น ตาอักเสบ ตาติดเชื้อ แผลกระจกตา รวมถึงผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท
หากมีความผิดปกติของดวงตา มาเช็กสุขภาพตาอย่างละเอียดที่Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)โรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล มั่นใจได้ว่าการรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัย