ย้อนกลับ
น้ำตาเทียม ทางเลือกสำหรับอาการตาแห้ง รู้จักประโยชน์ที่อาจไม่เคยรู้

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ การดูแลรักษาสุขภาพตาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาดวงตาคือการใช้น้ำตาเทียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา

บทความนี้พามาเจาะลึกประโยชน์ของน้ำตาเทียมที่มีมากกว่าการบรรเทาอาการตาแห้ง ทั้งการปกป้องดวงตาจากมลภาวะ ป้องกันการติดเชื้อ และเสริมการทำงานของดวงตา


  • น้ำตาเทียมคือของเหลวที่มีสารให้ความชุ่มชื้น ใช้หล่อลื่นดวงตาที่อยู่ในภาวะตาแห้ง บรรเทาอาการระคายเคือง และเป็นสารหล่อลื่นสำหรับผู้ใช้คอนแท็กต์เลนส์
  • น้ำตาเทียมแบบขวดเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะตาแห้งเล็กน้อย น้ำตาเทียมแบบหลอดไม่มีสารกันเสีย เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารกันเสียและต้องหยอดตาบ่อย น้ำตาเทียมแบบเจลเหมาะสำหรับผู้มีอาการตาแห้งระดับปานกลางถึงมาก แนะนำให้ใช้ก่อนนอนเพราะอาจทำให้ตาพร่ามัวชั่วคราว
  • ประโยชน์ของน้ำตาเทียมช่วยหล่อลื่นดวงตาหลังผ่าตัด บรรเทาอาการตาแห้งและระคายเคืองจากฝุ่นควัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ยับยั้งอาการต้อหิน ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อหินที่รุนแรงจนถึงขั้นตาบอด
  • ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียมคือไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น ใช้ห่างจากยาหยอดตาอื่น 10 นาที และระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสบริเวณดวงตาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

น้ำตาเทียมคืออะไร?

น้ำตาเทียม (Artificial Tears) คือของเหลวที่มีสารให้ความชุ่มชื้น ใช้หล่อลื่นดวงตาที่อยู่ในภาวะตาแห้งหรือทดแทนน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง แสบตา และตาแห้ง อีกทั้งยังเป็นสารหล่อลื่นสำหรับคนที่ใช้คอนแท็กต์เลนส์ สามารถหาซื้อได้เองตามโรงพยาบาล ร้านขายยา และห้างสรรพสินค้าโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

น้ำตาเทียมมีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ สารให้ความชุ่มชื้น เช่น คาร์บอกซิเมทิลเซลลูโลส (Carboxymethyl Cellulose) และโซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) สารบัฟเฟอร์ควบคุมความเป็นกรดด่าง สารปรับสภาพตึงตัว และสารที่ทำให้คุณสมบัติใกล้เคียงน้ำตาธรรมชาติ บางผลิตภัณฑ์อาจมีสารกันเสีย หรือในรูปแบบขี้ผึ้งป้ายจะมีส่วนผสมของลาโนลิน (Lanolin) ไวท์ปิโตรลาทัม (White Petrolatum) และน้ำมันมิเนรัล (Mineral oil)

ประเภทของน้ำตาเทียม

น้ำตาเทียมแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ โดยแต่ประเภทก็มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

 

น้ำตาเทียมแบบขวด

 

1. น้ำตาเทียมแบบขวด

น้ำตาเทียมแบบขวด หรือน้ำตาเทียมรายเดือน มีลักษณะเหลวใส ใช้งานง่าย ราคาถูกกว่าแบบหลอด มีอายุการใช้งานประมาณ 1 เดือนหลังเปิดใช้ แต่มีสารกันเสียที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในบางราย ต้องระมัดระวังเรื่องการจัดเก็บเพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณดวงตา เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะตาแห้งเล็กน้อย ต้องการใช้เป็นประจำ และไม่ชอบความเหนอะหนะ

 

น้ำตาเทียมแบบหลอด

 

2. น้ำตาเทียมแบบหลอด

น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมแบบรายวัน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารกันเสีย มีอายุการใช้งานเพียง 24 ชั่วโมงหลังเปิดใช้ ถูกบรรจุแบ่งเป็นหลอดขนาดเท่ากัน ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อหรือปนเปื้อน พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ทำให้รู้สึกสบายตา แม้ราคาจะสูงกว่าแบบขวดแต่เหมาะสำหรับคนที่แพ้สารกันเสีย คนที่ต้องหยอดตาบ่อยครั้ง และคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ

 

น้ำตาเทียมแบบเจล

 

3. น้ำตาเทียมแบบเจล

น้ำตาเทียมแบบเจลหรือขี้ผึ้งป้ายดวงตา มีความหนืดสูงกว่าน้ำตาเทียมทั่วไป จึงรักษาความชุ่มชื้นได้ยาวนานและไม่ต้องใช้บ่อย เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งระดับปานกลางถึงมากและคนที่มีเวลาจำกัด แนะนำให้ใช้ก่อนนอนเนื่องจากอาจทำให้ตาพร่ามัวชั่วคราว ไม่เหมาะกับคนที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา รวมถึงระมัดระวังเรื่องการจัดเก็บเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย

 

ประโยชน์ของน้ำตาเทียม

 

ประโยชน์ของน้ำตาเทียม

รู้ถึงประเภทของน้ำตาเทียมกันไปแล้ว สำหรับประโยชน์ของน้ำตาเทียมนั้นก็ยังมีหลายข้อด้วยกัน ซึ่งอาจรวมถึงประโยชน์ที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนด้วย ดังนี้

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา

น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ด้วยส่วนประกอบที่คล้ายน้ำตาธรรมชาติ เมื่อหยอดแล้วจะสร้างฟิล์มบางๆ ช่วยหล่อลื่นดวงตาอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้มีภาวะตาแห้ง คนที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือทำงานกลางแจ้งในอากาศร้อนแห้ง

ทั้งนี้ควรเลือกรูปแบบน้ำตาเทียมให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น ผู้ใส่คอนแท็กต์เลนส์ควรเลือกน้ำตาเทียมสำหรับคอนแท็กต์เลนส์โดยเฉพาะ ส่วนคนที่แพ้สารกันเสียควรใช้แบบหลอดที่ไม่มีสารกันเสีย

หล่อลื่นลูกตาหลังผ่าตัด

การผ่าตัดเกี่ยวกับดวงตาหรือแก้ไขปัญหาการมองเห็นอาจก่อให้เกิดภาวะตาแห้ง ระคายเคือง คัน ตาแดง และผลข้างเคียงอื่นๆ น้ำตาเทียมจึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่ผ่านการทำเลสิก ผ่าตัดต้อกระจก หรือการผ่าตัดตาประเภทอื่นๆ โดยช่วยบรรเทาอาการไม่สบายตาเหล่านี้ให้ลดลง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตามากขึ้นระหว่างการพักฟื้น

บรรเทาอาการต่างๆ

น้ำตาเทียมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการต่างๆ ของดวงตา ทั้งอาการแสบร้อน ระคายเคืองจากฝุ่นและควันที่พบในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังช่วยในกรณีกระจกตาถลอก ลดการอักเสบของแผลที่กระจกตา และที่สำคัญคือสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดวงตาสะอาดและสบายขึ้น

ช่วยยับยั้งอาการต้อหิน

น้ำตาเทียมมีประโยชน์สำคัญที่ช่วยยับยั้งอาการต้อหิน การหยอดตาจะช่วยระบายความดันภายในลูกตาให้ลดลง ซึ่งเมื่อความดันในลูกตาลดลง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อหินที่รุนแรงจนถึงขั้นตาบอดได้ เนื่องจากความดันที่สูงเกินไปนั้นจะเป็นอันตรายต่อเรตินาภายในดวงตา

ใช้เป็นน้ำตาเทียมคอนแท็กต์เลนส์

น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้คนที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ได้ แต่ต้องเลือกชนิดที่ผลิตเฉพาะสำหรับคอนแท็กต์เลนส์ หรือแบบหลอดและแบบรายวันที่ไม่มีสารกันเสีย หลีกเลี่ยงน้ำตาเทียมที่มีสารกันเสีย เพราะอาจถูกดูดซับโดยคอนแท็กต์เลนส์ ทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตา ทำให้เลนส์เปลี่ยนสีและประสิทธิภาพลดลง

หากจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสียควรถอดคอนแท็กต์เลนส์ออกก่อน หยอดน้ำตาเทียม รอ 10 นาที แล้วจึงใส่คอนแท็กต์เลนส์กลับเข้าไป

น้ำตาเทียม VS. ยาหยอดตา

หลายคนมักสับสนหรือเข้าใจผิดว่ายาหยอดตาและน้ำตาเทียมเป็นสิ่งเดียวกัน ทั้งที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน “น้ำตาเทียม” เป็นสารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง แสบตา ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายตา และใช้ได้หลังการผ่าตัดตาแบบต่างๆ

ในขณะที่ “ยาหยอดตา” มีส่วนประกอบที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาอาการเฉพาะ เช่น ยาหยอดตาสเตียรอยด์สำหรับลดการอักเสบ หรือยาหยอดตาสำหรับแก้แพ้ซึ่งใช้รักษาภูมิแพ้เยื่อบุตาและลดอาการตาแดง

ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

หากมีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำตาเทียมค่อนข้างบ่อย แนะนำให้ปฏิบัติตามข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้

  • ใช้น้ำตาเทียมตามคำแนะนำของแต่ละรูปแบบ เช่น แบบรายวันใช้ไม่เกิน 12 - 24 ชั่วโมง หรือแบบรายเดือนใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือนหลังเปิด
  • ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมร่วมกัน เพราะอาจเกิดการติดเชื้อบริเวณดวงตาได้
  • กรณีที่ต้องใช้น้ำตาเทียมและยาหยอดดวงตาเพิ่มเติม ควรใช้งานห่างกันประมาณ 10 นาที
  • หากใช้น้ำตาเทียมเป็นเวลานานหรือใช้บ่อย ควรเลือกชนิดที่ไม่ผสมสารกันเสีย โดยเฉพาะคนที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์
  • ระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสบริเวณดวงตาหรือขนตาขณะหยอด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ระคายเคืองหรือตาแห้งมากขึ้น ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

 

วิธีการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง ปลอดภัย

 

วิธีการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง ปลอดภัย

วิธีการใช้น้ำตาเทียมแบบง่ายๆ และปลอดภัยต่อดวงตา มีดังนี้

  1. ล้างมือให้สะอาดและทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  2. อ่านคำแนะนำของผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมอย่างละเอียดก่อนใช้
  3. เงยหน้าขึ้นทำมุมองศาที่เหมาะสม และประมาณระยะห่างระหว่างดวงตากับน้ำตาเทียม
  4. หยอดน้ำตาเทียมลงบนดวงตาตามปริมาณที่แนะนำ โดยให้ดวงตามองขึ้นด้านบน
  5. น้ำตาเทียมแบบเหลวใช้ 1 - 2 หยด วันละ 3 - 4 ครั้ง (น้ำตาเทียมรายเดือนห้ามใช้เกิน 4 ครั้งต่อวัน)
  6. กรณีตาแห้งรุนแรง ใช้ 1 - 2 หยด ประมาณ 10 - 12 ครั้งต่อวัน ตามที่แพทย์สั่ง
  7. น้ำตาเทียมแบบเจลป้ายและขี้ผึ้ง ใช้ 6 มิลลิลิตร วันละ 1 - 2 ครั้ง ช่วงเช้าและก่อนนอน
  8. หลังหยอดตา ให้หลับตา 2 - 3 นาที และนวดบริเวณหัวตาเบาๆ 1 นาที
  9. รอประมาณ 10 นาที ก่อนใช้ยาหยอดตาหรือขี้ผึ้งป้ายตาอื่นๆ
  10. ควรใช้ยาหยอดตาชนิดเหลวก่อนแบบขี้ผึ้ง เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ดวงตาได้ดี

วิธีเลือกซื้อน้ำตาเทียมให้เหมาะกับการใช้งาน

อย่างที่หลายๆ คนรู้กันดีว่าปัจจุบันมีน้ำตาเทียมหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ซึ่งการเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่ดีที่สุดจะต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน โดยมีข้อที่ควรพิจารณาดังนี้

  • การใช้ชีวิตประจำวันน้ำตาเทียมแบบขวดหรือแบบหลอดเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสบายตา ไม่เหนอะหนะและมีเวลาหยอดบ่อย ส่วนน้ำตาเทียมแบบเจลหรือขี้ผึ้งป้ายเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาหยอดระหว่างวัน เพราะให้ความชุ่มชื้นยาวนาน
  • ราคาน้ำตาเทียมควรมีราคาเหมาะสม เอื้อมถึงได้ และมีราคาเทียบเท่ากับร้านค้าอื่นๆ
  • อุปกรณ์เสริมผู้ที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ควรเลือกน้ำตาเทียมสำหรับคอนแท็กต์เลนส์โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสียหยอดขณะใส่คอนแท็กต์เลนส์ เพราะอาจส่งผลต่อสีและประสิทธิภาพของเลนส์ได้
  • คุณภาพควรเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่มีคุณภาพดี เก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม และซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ไม่ต้องเสี่ยงเจอน้ำตาเทียมปลอมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาได้

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังใช้น้ำตาเทียม

สำหรับบางคนอาจเกิดผลข้างเคียงหลังจากใช้งานน้ำตาเทียม ซึ่งหากเกิดความผิดปกติต่างๆ ขึ้น ควรหยุดการใช้งานน้ำตาเทียมและเข้าพบแพทย์อย่างเร็วที่สุด โดยอาการที่อาจพบได้มีดังนี้

  • เมื่อหยอดน้ำตาเทียมแล้วตามัว มองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน
  • เกิดการระคายเคือง หรือแสบบริเวณดวงตา
  • ปวดตา
  • มีอาการคันตา ตาแดง น้ำตาไหลบ่อยๆ
  • มีความขมเกิดขึ้นในลำคอ
  • มีอาการตาแพ้แสงสว่าง
  • มองเห็นภาพซ้อน
  • ตาแฉะ เปลือกตาบวม

หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ อันตรายมากไหม?

การหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ไม่ได้เป็นอันตราย เนื่องจากน้ำตาเทียมถูกออกแบบมาให้เลียนแบบน้ำตาธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความหล่อลื่นให้ดวงตา สามารถบรรเทาอาการตาแห้ง ระคายเคือง และตาแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำหรือต้องการใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะทาง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมก่อน

หลังผ่าต้อกระจกหยอดน้ำตาเทียมได้ไหม?

หลังผ่าตัดต้อกระจกสามารถหยอดน้ำตาเทียมได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้ใช้เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งที่มักเกิดขึ้นหลังผ่าตัดซึ่งอาจทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนชั่วคราว น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ลดอาการระคายเคือง และยังช่วยส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นอีกด้วย

รักษาดวงตา ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร

หากมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา แนะนำให้เข้ามาปรึกษาและรักษาได้ที่ศูนย์รักษาโรคกระจกตา Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ที่นี่โดดเด่นด้านการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยจักษุแพทย์ผู้มากความรู้เกี่ยวกับดวงตาและและทีมงานที่มีประสบการณ์ และจุดเด่นดังนี้

  • โรงพยาบาลมีทีมจักษุแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติ และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
  • เทคโนโลยีสำหรับการรักษาดวงตาสมัยใหม่ เครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อการรักษาดวงตาอย่างแม่นยำและปลอดภัย
  • พร้อมให้การรักษาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
  • ใส่ใจในการบริการ พร้อมบรรยากาศของโรงพยาบาลที่เป็นกันเอง

สรุป

น้ำตาเทียมเป็นของเหลวที่มีสารให้ความชุ่มชื้น ประโยชน์ของน้ำตาเทียมคือช่วยหล่อลื่นดวงตาที่แห้ง บรรเทาอาการระคายเคือง และเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ใช้คอนแท็กต์เลนส์ นอกจากนี้ยังช่วยในการฟื้นฟูดวงตาหลังผ่าตัด บรรเทาอาการตาแห้งจากมลภาวะ เพิ่มความชุ่มชื้น และยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อหินรุนแรงที่อาจนำไปสู่ภาวะตาบอดได้

สำหรับคนที่มีปัญหาดวงตา แนะนำมาที่Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)โรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล มั่นใจได้ว่าการรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัย

calling
ติดต่อเรา : +662 511 2111