เจาะลึกเทคโนโลยีในการตรวจจอประสาทตา
เทคโนโลยีทางการแพทย์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยและรักษาโรคตาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การตรวจจอประสาทตา" ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลสุขภาพดวงตา ศูนย์รักษาจอประสาทตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ พร้อมมอบการดูแลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ
1. Optical Coherence Tomography (OCT)
OCT เปรียบเสมือนการทำ "อัลตราซาวด์" แต่ใช้แสงแทนคลื่นเสียง เพื่อสร้างภาพตัดขวางของจอประสาทตาแบบ 3 มิติ เผยให้เห็นรายละเอียดของชั้นต่างๆ ในจอประสาทตาได้อย่างชัดเจน
ข้อดีของ OCT
• ตรวจพบความผิดปกติได้อย่างละเอียด: แม้ในระยะเริ่มต้นที่ยังไม่แสดงอาการ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคเบาหวานขึ้นตา, ต้อหิน, จอประสาทตาหลุดลอก, รูรั่วที่จอประสาทตา
• ไม่ต้องฉีดสี : จึงปลอดภัย แม้แต่กับผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ หรือหญิงตั้งครรภ์
• ใช้เวลาตรวจไม่นาน : เพียงไม่กี่นาที
• ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง : ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ
2. Fundus Photography
Fundus Photography คือการถ่ายภาพจอประสาทตาด้วยกล้องความละเอียดสูง บันทึกภาพสีของจอประสาทตา เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงและประเมินผลการรักษา
ข้อดีของ Fundus Photography
• เก็บภาพจอประสาทตา ไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง เพื่อเปรียบเทียบกับผลการตรวจในครั้งต่อไป
• ติดตามอาการของโรค : เช่น เบาหวานขึ้นตา ต้อหิน โรคจอประสาทตาเสื่อม
• ประเมินผลการรักษา : และปรับแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
3. Fluorescein Angiography
Fluorescein Angiography คือการฉีดสีชนิดพิเศษเข้าเส้นเลือด แล้วถ่ายภาพจอประสาทตา เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของหลอดเลือด
ข้อดีของ Fluorescein Angiography
วินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดในจอประสาทตา เช่น เบาหวานขึ้นตา, จอประสาทตาอุดตัน, เนื้องอกในตา
ศูนย์รักษาจอประสาทตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ พร้อมดูแลสุขภาพดวงตาของคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมจักษุแพทย์เฉพาะทาง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-511-2111