สาเหตุที่ทำให้กระจกตาถลอก พร้อมวิธีการรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
กระจกตาถลอกคือการบาดเจ็บที่กระจกตา เกิดรอยขีดข่วนหรือแผลที่ผิวกระจกตา ส่งผลให้มีอาการเจ็บปวดบริเวณดวงตาและมองเห็นได้ไม่ชัด
กระจกตาถลอกเกิดจากการขีดข่วนหรือบาดเจ็บที่กระจกตา เช่น การขยี้ตาแรง การมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในดวงตา หรือการใช้คอนแท็กต์เลนส์ไม่ถูกวิธี
วิธีรักษากระจกตาถลอกคือการใช้ยาหยอดตาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และปิดตาลดการเสียดสี ส่วนวิธีป้องกัน เช่น ไม่ขยี้ตา สวมแว่นตาป้องกัน และรักษาความสะอาดมือ
รักษากระจกตาถลอกที่ศูนย์รักษาโรคกระจกตา Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) มอบการดูแลจากจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เกิดกระจกตาถลอกและการเลือกวิธีการรักษาและป้องกันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว
กระจกตาถลอก คืออาการอะไร
กระจกตาถลอก คือการขีดข่วนหรือบาดเจ็บที่ผิวกระจกตาซึ่งเป็นส่วนโปร่งใสที่ปกคลุมดวงตา ชั้นบนสุดของกระจกตาคือเยื่อบุ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 ชั้นของกระจกตา อาการของการถลอกเกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุผิว การเสียดสี หรืออุบัติเหตุที่ไม่รุนแรงมาก แต่เมื่อผิวกระจกตาหลุดออกจะกระทบกับเส้นประสาทที่อยู่ใต้เยื่อบุผิว ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดจากการสัมผัสกับน้ำหรืออากาศ
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นกระจกตาถลอก
หากกระจกตาถูกขีดข่วนหรือบาดเจ็บ อาจทำให้เกิดอาการกระจกตาถลอก ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการต่างๆ คือ
ดวงตาแฉะหรือมีน้ำตาไหลมากผิดปกติ
เจ็บปวดที่ดวงตา อาจมีอาการระคายเคืองหรือรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา
มีอาการไวต่อแสงหรือแสบตาเมื่อมองแสง
มองเห็นไม่ชัด หรือภาพพร่ามัวเนื่องจากกระจกตาไม่เรียบ
เวียนศีรษะจากการมองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจน
หนังตาบวม หรือมีอาการเปลือกตากระตุก
กระจกตาถลอก มองไม่ชัด เกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง
กระจกตาถลอกและทำให้มองเห็นไม่ชัดเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน อาการผิดปกติ และโรคต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
หากอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นละอองหรือเศษสิ่งสกปรกมาก โดยเฉพาะในผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือเศษละอองจากสิ่งสกปรกเยอะ เช่น ผู้ที่ทำงานในอาชีพก่อสร้าง ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือชาวไร่ชาวสวนที่ใกล้ชิดกับใบไม้และกิ่งไม้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดกระจกตาถลอกได้
ขยี้ตาแรง
การขยี้ตาแรงอาจทำให้กระจกตาถลอกได้ เนื่องจากแรงที่เกิดขึ้นจากการขยี้ตาทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างมือหรือสิ่งที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่กับผิวกระจกตา นอกจากนี้การขยี้ตายังทำให้สิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น หรือเชื้อโรคเข้าไปในตา ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือการระคายเคืองเพิ่มขึ้น
ดวงตาบาดเจ็บ
การได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาจากสาเหตุต่างๆ เช่น การขูดขีดจากเล็บมือ แปรงแต่งหน้า หรือปากกาทิ่มตา ทำให้เกิดกระจกตาถลอกได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ไปสัมผัสหรือเสียดสีกับผิวกระจกตาที่บอบบาง ทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือการบาดเจ็บได้ง่าย
นอกจากนี้การเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยง เช่น กีฬาที่มีลูกบอลหรืออุปกรณ์กระทบเข้ากับดวงตา หากไม่ใส่แว่นตาป้องกัน หรือการผ่าตัดที่ไม่ได้ปิดตาอย่างถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดกระจกตาถลอก ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้นได้
การใส่คอนแท็กต์เลนส์ไม่ถูกต้อง
คอนแท็กต์เลนส์เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เกิดกระจกตาถลอกได้ โดยเฉพาะในคนที่ใช้คอนแท็กต์เลนส์แฟชั่นที่อาจไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน หากคอนแท็กต์เลนส์ไม่สะอาดหรือเสียดสีกับดวงตาก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นแผลที่กระจกตาได้
รวมถึงการใช้คอนแท็กต์เลนส์ที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้คอนแท็กต์เลนส์แบบรายวันแต่ใส่ติดต่อกันนานกว่าที่กำหนด หรือไม่รักษาความสะอาดของคอนแท็กต์เลนส์อย่างถูกต้อง ก็อาจทำให้เลนส์เสื่อมสภาพและส่งผลให้เกิดการถลอกที่กระจกตาได้
ติดเชื้อที่ดวงตา
การติดเชื้อที่ดวงตา เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา เมื่อเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ดวงตาผ่านการสัมผัสโดยตรงหรือการใช้สิ่งของที่ไม่สะอาดจะทำให้เกิดการอักเสบหรือแผลที่กระจกตา ซึ่งจะทำให้ผิวกระจกตาบอบบางและเสี่ยงต่อการขีดข่วนหรือการบาดเจ็บได้ง่าย ทำให้เกิดกระจกตาถลอกได้
โรคประจำตัว
นอกจากปัจจัยภายนอกแล้ว อาการกระจกตาถลอก มองไม่ชัดอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวได้เช่นกัน เช่น
ผู้ที่มีภาวะตาแห้งซึ่งทำให้ดวงตาขาดน้ำและเกิดการถลอกของกระจกตาง่ายขึ้น
ผู้ที่มีอาการของโรคภูมิแพ้หรือเยื่อบุตาอักเสบจากโรคภูมิแพ้ที่ทำให้ขยี้ตาบ่อยครั้ง จนทำให้กระจกตาถลอกเป็นแผล
ผู้ที่มีโรคที่ทำให้เปลือกตาปิดไม่สนิท ก็เสี่ยงต่อการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตาและทำให้เกิดการถลอกหรือแผลที่กระจกตาได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกระจกตาถลอก
อาการกระจกตาถลอกเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย ได้แก่
การทำงานใกล้กับอันตรายที่อาจกระทบตา เช่น เครื่องเจียรหรือโรงเลื่อย
การทำสวนโดยไม่สวมแว่นตาป้องกัน
การเล่นกีฬาอันตรายที่อาจทำให้เกิดบาดเจ็บที่ดวงตา
การใส่คอนแท็กต์เลนส์
การมีอาการตาแห้ง
การขยี้ตาซ้ำๆ หรือขยี้ตาด้วยแรงมาก
การรักษาและฟื้นฟูกระจกตาถลอก
วิธีรักษากระจกตาถลอกจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันตามการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ดังนี้
การใช้ยายาหยอดตาและยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการเจ็บตาและตาแดง ยาปฏิชีวนะชนิดหยอดตาหรือยาทาชนิดขี้ผึ้งใช้ป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตาและฆ่าเชื้อไวรัส
ใช้ผ้าปิดตาช่วยป้องกันแสงและลดการเคลื่อนไหวของดวงตา โดยเฉพาะในกรณีที่มีรอยแผลใหญ่หรือภาวะตาไวต่อแสง เพื่อป้องกันการเสียดสีและช่วยฟื้นตัว
ใช้คอนแท็กต์เลนส์พอดีตาช่วยป้องกันการเสียดสีได้ และควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
การป้องกันไม่ให้เกิดกระจกตาถลอก
วิธีป้องกันและดูแลเพื่อลดความเสี่ยงและปกป้องดวงตาให้ปลอดภัยจากการบาดเจ็บ ไม่ให้เกิดกระจกตาถลอก มองเห็นไม่ชัด สามารถทำได้มีหลายวิธี ดังนี้
รักษาความสะอาด หมั่นล้างมือ ตัดเล็บให้สั้น และหลีกเลี่ยงการจับ ถู หรือขยี้ดวงตาแรงๆ
สวมแว่นตาป้องกันเพื่อป้องกันดวงตาจากสิ่งแปลกปลอมในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์เสี่ยง
หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นละออง เช่น พื้นที่ก่อสร้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตา
เลือกใช้คอนแท็กต์เลนส์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับสภาพดวงตา รวมถึงถอดคอนแท็กต์เลนส์ก่อนนอนและทำความสะอาดให้ถูกวิธี
ใช้สารเคมีหรืออุปกรณ์ที่มีคมอย่างระมัดระวัง
สรุป
กระจกตาถลอกคือการบาดเจ็บที่ผิวกระจกตา ซึ่งทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือแผลที่ผิวหนังของกระจกตา โดยสาเหตุของกระจกตาถลอกมักเกิดจากขยี้ตาแรง การใช้อุปกรณ์หรือสารเคมีเสี่ยง การใส่คอนแท็กต์เลนส์ไม่สะอาด หรือการบาดเจ็บจากของแข็ง การรักษากระจกตาถลอกมีการใช้ยาหยอดตา ยาปฏิชีวนะ และการปิดตาเพื่อป้องกันการเสียดสี ส่วนการป้องกันควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา สวมแว่นตาป้องกัน และใส่คอนแท็กต์เลนส์ที่สะอาด
หากมีอาการกระจกตาถลอก มารับการรักษาที่ศูนย์รักษาโรคกระจกตา Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)มีแพทย์ที่ชำนาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดูแลดวงตาที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระจกตา