Back
รู้เท่าทันโรคตาขี้เกียจ! วิธีสังเกตอาการ พร้อมหาสาเหตุและวิธีรักษา

โรคตาขี้เกียจ หรือ Lazy Eyes คือโรคที่พบบ่อยในเด็ก หากปล่อยไว้นานโดยไม่ทำการรักษาจะมีผลต่อกล้ามเนื้อตาในระยะยาวได้ ผู้ปกครองจึงควรสังเกตอาการและพฤติกรรมของเด็กอย่างใกล้ชิด หากมีอาการเพ่งมองสิ่งต่างๆ ปวดศีรษะร่วมกับปวดตา และมองเห็นชัดข้างเดียว ควรพาพบแพทย์เนื่องจากอาจเป็นอาการของโรคตาขี้เกียจได้ มาดูว่าโรคตาขี้เกียจคืออะไร มีอาการอย่างไร การวินิจฉัย พร้อมแนวทางการรักษาได้ที่นี่

  • โรคตาขี้เกียจคืออาการที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างสูญเสียประสิทธิภาพการมองเห็นจนสมองปิดการรับรู้

  • อาการของตาขี้เกียจที่สังเกตได้ เช่น ต้องเพ่งมอง ตาล้า ปวดศีรษะง่ายหรืออาจพบต้อในตาได้

  • โรคตาขี้เกียจรักษาได้หลายวิธี ทั้งการปิดตาหนึ่งข้าง การใส่แว่น การใช้ยาหยอดตาขยายรูม่านตา เป็นต้น

  • อาการตาขี้เกียจป้องกันได้โดยการสังเกตพฤติกรรมของเด็กหรือหมั่นตรวจสุขภาพและสายตาอย่างสม่ำเสมอ

  • รักษาโรคตาขี้เกียจที่ศูนย์รักษาโรคตาเด็ก Bangkok Eye Hospital มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ประสบการณ์สูงในเรื่องการรักษาตาขี้เกียจ พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีสำหรับการรักษาที่ทันสมัย ใส่ใจการให้บริการในทุกเคส

 

โรคตาขี้เกียจ (Amblyopia) คืออะไร

 

โรคตาขี้เกียจ (Amblyopia) คืออะไร

โรคตาขี้เกียจ (Amblyopia) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lazy Eyes คืออาการที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างมองเห็นไม่ชัดจนทำให้สมองปิดการรับรู้ หรือทำให้ประสาทสัมผัสปิดการใช้งานและพัฒนาด้านอื่นแทน จนทำให้กล้ามเนื้อตานั้นอ่อนแอและมีการมองเห็นที่แย่ลง เป็นโรคสายตาที่พบบ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปีได้ 2 - 5%

โรคตาขี้เกียจ มีอาการอย่างไร

ตาขี้เกียจมีอาการที่สามารถสังเกตที่บ่งชี้ได้ โดยสังเกตได้จากการพฤติกรรมการมองของเด็ก ดังนี้

  • เพ่งตามองสิ่งต่างๆ ในระยะใกล้ หรือเอียงคอมอง

  • ปิดตาข้างใดข้างหนึ่งเพื่อมองให้ชัดเจน

  • ตาเหล่หรือตาเข

  • ปวดศีรษะร่วมกับอาการตาล้าหรือปวดตาบ่อยๆ

 

สาเหตุโรคตาขี้เกียจ เกิดจากอะไร

 

สาเหตุโรคตาขี้เกียจ เกิดจากอะไร

สาเหตุของโรคตาขี้เกียจอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

1. ค่าสายตาผิดปกติตั้งแต่เด็ก

หากมีค่าสายตามากทั้งสองข้างตั้งแต่เด็กจะทำให้สมองปิดการรับรู้จนหยุดพัฒนาค่าสายตาและพัฒนาประสาทสัมผัสด้านอื่นๆ ทดแทน หรือหากมีค่าสายตาเพียงข้างใดข้างหนึ่งที่มากตั้งแต่เด็กจะทำให้การพัฒนาการมองเห็นมีเพียงข้างเดียวและส่งผลให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแอได้ในระยะยาว

2. อาการตาเหล่ ตาเข

อาการตาเหล่หรือตาเขข้างเดียวเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตาขี้เกียจได้มากที่สุด เนื่องจากอาการตาเหล่หรือ ตาเขข้างเดียวจะทำให้ดวงตานั้นมีการใช้สายตาเพียงข้างเดียว หากเกิดขึ้นกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี จะทำให้การพัฒนาสายตาด้านการรับรู้ภาพ 3 มิตินั้นไม่เต็มที่ หากไม่รักษาดวงตาที่ไม่สามารถรับภาพ 3 มิติได้จะกลายเป็นโรคตาขี้เกียจที่รักษาได้ยาก

3. ภาวะเปลือกตาตก

ภาวะเปลือกตาตก หากมีอาการเปลือกตาตกจะทำให้ถูกบดบังการมองเห็นหรือมองเห็นได้ไม่เต็มที่ ทำให้สายตานั้นทำงานได้แย่ลง จนเกิดเป็นโรคตาขี้เกียจได้ทั้งสองข้าง

4. ระบบประสาทผิดปกติ

สาเหตุของตาขี้เกียจจากระบบประสาทผิดปกติ หากมีความผิดปกติของการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง กระแสประสาทหรือเส้นประสาทดวงตา ทำให้สมองไม่สามารถประมวลผลหรือรับภาพได้ตามปกติ จะทำให้การพัฒนาของสายตาทำได้ไม่เต็มที่จนเกิดโรคตาขี้เกียจ

5. โรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โรคทางสายตาอื่นๆ ก็สามารถทำให้เกิดโรคตาขี้เกียจได้ เช่นต้อกระจกเลนส์ตาผิดปกติหรือจอประสาทตาเสื่อมในเด็ก ทำให้การมองเห็นของดวงตาผิดปกติหรือไม่ชัดเจน จนเกิดเป็นโรคตาขี้เกียจได้

 

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคตาขี้เกียจ

 

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคตาขี้เกียจ

ภาวะแทรกซ้อนของโรคตาขี้เกียจคืออาจทำให้สูญเสียการมองเห็นแบบภาพ 3 มิติและสายตาสั้นผิดปกติได้ หากไม่รักษาตั้งแต่ก่อนอายุ 2 ปีก็จะทำให้รักษาไม่ค่อยเห็นผล และมีผลต่อการมองเห็นได้มาก จึงควรสังเกตอาการตั้งแต่ยังเด็กและรีบรักษาให้เร็วที่สุด

การวินิจฉัยอาการตาขี้เกียจจากแพทย์

การวินิจฉัยโรคตาขี้เกียจโดยแพทย์นั้นจะทำการตรวจดูอาการตาเหล่ ตาเข เปลือกตา หรือส่วนอื่นๆ ในดวงตาที่อาจบดบังหรือทำให้การมองเห็นไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังต้องวินิจฉัยอาการตาขี้เกียจจากการวัดค่าสายตาของดวงตาทั้งสองข้างด้วย

 

แนวทางการรักษาโรคตาขี้เกียจ

 

แนวทางการรักษาโรคตาขี้เกียจ

การรักษาโรคตาขี้เกียจนั้น หากยิ่งพบแพทย์และทำการวินิจฉัยการรักษาเร็วก็ยิ่งได้ประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะทำการประเมินโรคตาขี้เกียจจากสาเหตุและอาการต่างๆ เพื่อเลือกวิธีรักษา ดังนี้

การสวมใส่แว่น

การสวมใส่แว่นจะเป็นการรักษาตาขี้เกียจที่เกิดจากค่าสายตาที่มากผิดปกติ โดยการใส่แว่นจะช่วยปรับให้ดวงตาที่มีอาการตาขี้เกียจนั้นถูกกระตุ้นและใช้งานได้ดีขึ้นจนทำให้เกิดการพัฒนาการมองเห็นขึ้นตามลำดับ วิธีการรักษาตาขี้เกียจด้วยการสวมแว่นอาจทำร่วมกับการปิดตาข้างหนึ่งหากอาการตาขี้เกียจนั้นเกิดจากค่าสายตามากข้างเดียวหรืออาการตาเหล่ตาเขข้างเดียว

การปิดตาข้างเดียว

การปิดตาข้างเดียว เป็นการกระตุ้นในกรณีที่มีอาการโรคตาขี้เกียจข้างเดียว เนื่องจากอาการตาขี้เกียจคือการหยุดใช้งานดวงตา การปิดตาข้างเดียวจะเป็นการกระตุ้นให้ดวงตาที่หยุดการทำงานหรือการพัฒนานั้นกลับมาถูกกระตุ้นและใช้งานมากขึ้นเพื่อให้เทียบเท่ากับดวงตาที่มีการใช้งานปกติ

การรักษาตาขี้เกียจด้วยการปิดตาข้างเดียวนั้นอาจใช้ระยะเวลา 5 - 6 ชั่วโมงต่อวันหรือตามที่แพทย์แนะนำ ในระหว่างการรักษาด้วยการปิดตาข้างเดียวในแต่ละวันนั้นควรที่จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เด็กที่รับการรักษาได้ถูกกระตุ้นให้ใช้ดวงตาตามปกติมากที่สุด วิธีการรักษาตาขี้เกียจด้วยการปิดตาข้างเดียวต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการรักษาและอาจใช้ระยะเวลาหลายเดือนหรือเป็นปีจนกว่าอาการตาขี้เกียจจะถูกกระตุ้นจนสามารถพัฒนาต่อได้

หยอดยาขยายรูม่านตา

การหยอดยาขยายรูม่านตา ใช้ในกรณีที่คล้ายคลึงกันกับการปิดตาข้างเดียว คือการลดการมองเห็นของดวงตาข้างที่ถนัดเพื่อเปิดการกระตุ้นการใช้งานดวงตาที่มีอาการของโรคตาขี้เกียจให้มากขึ้น เนื่องจากการขยายรูม่านตาจะทำให้การมองเห็นนั้นน้อยลง

การผ่าตัดรักษาตาขี้เกียจ

การผ่าตัดรักษาโรคตาขี้เกียจ เป็นการแก้ไขอาการตาขี้เกียจที่เกิดจากอาการตาเหล่ ตาเข หรือหนังตาตกโดยแก้ที่สาเหตุของโรค เมื่อผ่าตัดรักษาอาการตาเหล่ ตาเข และหนังตาตกที่บดบังการมองเห็นหรือทำให้การมองเห็นไม่สมบูรณ์แล้ว ก็จะทำให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นและมีการกระตุ้นสายตาให้พัฒนาขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับอาการตาขี้เกียจในวัยผู้ใหญ่ที่มีการพัฒนาการมองเห็นเต็มที่แล้ว

ป้องกันอาการตาขี้เกียจได้อย่างไร

การรักษาอาการตาขี้เกียจอาจทำได้ยาก แพทย์จึงแนะนำให้ป้องกันอาการตาขี้เกียจตั้งแต่เนิ่นๆ โดยมีแนวทางในการป้องกัน ได้แก่

  • ตรวจสุขภาพและค่าสายตาเป็นประจำ โดยเฉพาะเด็กก่อนอายุ 2 - 3 ปี

  • หมั่นสังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงโรคตาขี้เกียจ เช่น อาการเพ่งหรือเอียงคอมองสิ่งต่างๆ อาการปวดศีรษะหรือดวงตา

  • สังเกตการค่าสายตาที่แตกต่างกันของดวงตาทั้งสองข้าง

  • สอนให้เด็กรู้จักการสังเกตการมองเห็นของตนเองเพื่อให้รับรู้ได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่พบความผิดปกติซึ่งอาจนำไปสู่โรคตาขี้เกียจได้

รักษาโรคตาขี้เกียจ (Amblyopia) ที่ศูนย์โรคตาเด็ก Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร

หากมีอาการตาขี้เกียจ (Amblyopia) แนะนำให้เข้ามาปรึกษาและรักษาอาการเหล่านี้ได้ที่ศูนย์รักษาตาเด็ก Bangkok Eye Hospital ที่นี่โดดเด่นด้านการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อตาเข มีจุดเด่นดังนี้

  • โรงพยาบาลมีทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติ และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

  • เทคโนโลยีสำหรับการรักษาดวงตาสมัยใหม่ เครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อการรักษาดวงตาอย่างแม่นยำและปลอดภัย

  • พร้อมให้การรักษาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ

  • ใส่ใจในการบริการ พร้อมบรรยากาศของโรงพยาบาลที่เป็นกันเอง

สรุป

โรคตาขี้เกียจ หรือ Lazy eyes คือ อาการที่การมองเห็นของดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างนั้นมีปัญหาจนทำให้สมองปิดการรับรู้หรือหยุดพัฒนาประสาทสัมผัสการมองเห็นและนำไปพัฒนาด้านอื่นทดแทน หากปล่อยไว้นานและไม่ทำการรักษาจะส่งผลในระยะยาวคือทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแอหรือสายตาสั้นผิดปกติ หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็นของลูก แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยการรักษามีหลากหลายวิธี เช่น การใส่แว่น การปิดตาหนึ่งข้าง หรือการหยอดยาขยายรูม่านตาเพื่อเป็นการปรับการมองเห็น และกระตุ้นสายตาข้างที่มีอาการของโรคตาขี้เกียจให้มีการใช้งานและพัฒนาการมองเห็นให้ดีขึ้น

ที่ศูนย์โรคตาเด็ก Bangkok Eye Hospitalมีการดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือในการรักษาที่ทันสมัย ดูแลอย่างครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนของการให้คำปรึกษา การวินิจฉัย และการรักษาโรคตาขี้เกียจ ด้วยใจบริการที่ใส่ใจในทุกเคสภายใต้สถานที่ที่มีความเป็นกันเอง ทำให้มั่นใจในการรักษาได้อย่างผ่อนคลายไร้กังวล

calling
ဆက်သွယ်ရန် : +66965426179