การขับรถในช่วงกลางคืนเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับหลายคน โดยเฉพาะเมื่อขับรถกลางคืนมองไม่ชัด ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ปัญหานี้พบได้บ่อยไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีสายตาปกติหรือมีปัญหาทางสายตา หากเข้าใจสาเหตุและมีแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ทุกการเดินทางในยามค่ำคืนปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ภาวะขับรถกลางคืนมองไม่ชัดคือภาวะที่สายตามองเห็นไม่ชัดในสภาพแสงน้อย เช่น ตอนขับรถเวลากลางคืน โดยมักเกิดจากปัญหาทางสายตาอย่างสายตาสั้น สายตาเอียง ตาแห้ง หรือโรคตาต่างๆ ทำให้เห็นภาพพร่ามัว แสงไฟเป็นแฉก หรือรู้สึกตาล้าเมื่อขับรถนานๆ ในเวลากลางคืน

อาการขับรถตอนกลางคืนแล้วมองเห็นไม่ชัดเจน หรือรู้สึกไม่สบายตาเมื่อขับรถในที่มืด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
ขับรถกลางคืน มองไม่ชัดอาจเกิดจากภาวะสายตาสั้นที่มีอยู่เดิม ซึ่งทำให้มองเห็นวัตถุระยะไกลไม่ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงน้อย รูม่านตาจะขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือที่เรียกว่า ภาวะสายตาสั้นตอนกลางคืน (Night Myopia) ทำให้การมองเห็นในเวลากลางคืนยิ่งแย่ลง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
สายตาเอียงอาจทำให้มองเห็นแสงไฟเป็นเส้นแฉกหรือมีเงาซ้อน โดยเฉพาะในที่มืดหรือช่วงเวลากลางคืน อาการเหล่านี้ยิ่งทำให้มองถนนหรือรถคันอื่นได้ยากขึ้น และอาจลดทัศนวิสัยในการขับขี่อย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขับรถตอนกลางคืนมองไม่ชัดและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
เมื่ออายุมากกว่า 40 ปี เลนส์ตาจะเริ่มแข็งตัว ทำให้การปรับโฟกัสระยะใกล้ลดลง และอาจส่งผลให้การมองเห็นระยะกลางในที่มืดไม่ชัดเจน แสงไฟจากรถหรือถนนจึงอาจดูกระจายหรือฟุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ขับรถกลางคืนแสงกระจายและมองไม่ชัดอย่างที่หลายคนพบเจอได้บ่อยครั้ง
ภาวะตาแห้งทำให้ผิวกระจกตาขาดความเรียบเนียนและฟิล์มน้ำตาที่ช่วยรวมแสงให้คมชัดลดลง ส่งผลให้การมองเห็นในที่มืดแย่ลง และทำให้รู้สึกแสบตาหรือเคืองตามากขึ้นเมื่อจ้องถนนนานๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขับรถกลางคืนมองไม่ชัดและไม่สบายตาได้ง่ายขึ้น
โรคจอประสาทตาเสื่อมจากกรรมพันธุ์ส่งผลให้การมองเห็นในที่มืดหรือเวลากลางคืนแย่ลงอย่างมาก จนอาจเกิดอาการตาบอดกลางคืน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขับรถกลางคืนมองไม่ชัดและเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ในที่มืดได้
การขาดวิตามินเออย่างรุนแรงอาจรบกวนการทำงานของจอประสาทตา ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการมองเห็นในที่แสงน้อย ส่งผลให้มองไม่ชัดขณะขับรถตอนกลางคืน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ผู้ที่เป็นต้อกระจกจะมีภาวะเลนส์ตาขุ่น ส่งผลให้แสงผ่านเข้าสู่ดวงตาได้น้อยลง ทำให้การมองเห็นลดลง โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่มีแสงน้อย ยิ่งทำให้ขับรถตอนกลางคืนมองไม่ชัดมากขึ้น อีกทั้งแสงจากไฟหน้ารถคันอื่นยังอาจถูกเลนส์ตาที่ขุ่นมัวหักเหจนเกิดแสงฟุ้งกระจาย (Glare) ส่งผลให้ขับรถกลางคืนแสงกระจาย รบกวนการมองเห็นและเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่อย่างมาก

หากคุณมีปัญหาในการขับรถตอนกลางคืน มองเห็นไม่ชัด หรือรู้สึกแสบตา แสบแสง จนทำให้ไม่มั่นใจขณะขับขี่ ควรพิจารณาแนวทางเหล่านี้เพื่อแก้ไขและป้องกัน
การเข้ารับการตรวจสายตาและตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณมีปัญหาขับรถกลางคืน มองไม่ชัด เพราะแพทย์สามารถวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาได้ เช่น ค่าสายตาที่เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว สายตาเอียงที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือแม้แต่ภาวะต้อกระจกในระยะเริ่มต้น ซึ่งล้วนส่งผลต่อการมองเห็นในที่แสงน้อย
หากคุณใส่แว่นอยู่แล้ว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาเรื่องการมองเห็นตอนกลางคืนขณะขับรถโดยเฉพาะ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินว่าค่าสายตาจำเป็นต้องปรับหรือไม่ พร้อมทั้งอาจแนะนำการเลือกชนิดเลนส์ที่เหมาะสม เช่น เลนส์ที่ช่วยลดแสงสะท้อนหรือเพิ่มความคมชัดในสภาพแสงน้อย ช่วยให้การขับขี่ตอนกลางคืนปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น
การเลือกเลนส์ที่เหมาะสมช่วยแก้ปัญหาขับรถกลางคืน มองไม่ชัดได้ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีสายตาสั้นหรือเอียง ควรใช้เลนส์ที่ปรับค่าสายตาอย่างแม่นยำ พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อนเพื่อลดแสงไฟรบกวน เพิ่มความคมชัด และลดความเมื่อยล้าตา นอกจากนี้เลนส์เฉพาะสำหรับขับขี่กลางคืนยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการลดแสงสะท้อนและเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็นมากขึ้น
ภาวะตาแห้งควรใช้ยาหยอดน้ำตาเทียมและกะพริบตาบ่อยๆ พักสายตาทุก 20 นาทีโดยมองไปรอบๆ หรือหลับตาชั่วคราว รักษาความชื้นในห้อง หลีกเลี่ยงลมแรง สวมแว่นกันลม และดื่มน้ำให้เพียงพอ หากอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม
แสงสว่างภายในรถที่สว่างเกินไป โดยเฉพาะจากหน้าปัดรถยนต์และอุปกรณ์นำทาง (GPS) สามารถทำให้ดวงตาต้องปรับตัวบ่อยครั้ง รูม่านตาหดเล็กลงเพื่อลดแสงเข้าตา ส่งผลให้การรับแสงในที่มืดลดลง ทำให้ขับรถกลางคืนมองไม่ชัดเจน
นอกจากนี้แสงจ้าที่มากเกินไปยังอาจทำให้เกิดอาการล้าตาและปวดตาได้ง่ายขึ้น การปรับแสงให้เหมาะสมจึงช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตา เพิ่มความสบายขณะขับขี่ และช่วยให้การมองเห็นถนนและสิ่งรอบข้างในเวลากลางคืนชัดเจนขึ้น
ขับรถกลางคืนมองไม่ชัดอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง ภาวะตาแห้ง หรือโรคต้อกระจกที่ทำให้แสงฟุ้งกระจาย การมองเห็นในที่มืดลดลง ส่งผลต่อความปลอดภัยขณะขับขี่ การเลือกเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมและการปรับแสงภายในรถช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่มีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสุขภาพตาและรับคำแนะนำการแก้ไขอย่างถูกต้องที่โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ (Bangkok Eye Hospital) เพื่อความปลอดภัยและความสบายในการขับขี่ทุกครั้ง
หลายคนอาจรู้สึกว่าการขับรถกลางคืนยากกว่ากลางวัน เพราะมองเห็นไม่ชัดจากแสงไฟหรือความล้าตา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสายตา ในบทความนี้จึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบไว้แล้ว
การทำเลสิกช่วยแก้สายตาสั้นและเอียง ซึ่งอาจช่วยให้มองเห็นตอนขับรถกลางคืนชัดขึ้น อย่างไรก็ตามบางรายอาจมีอาการตาแห้งหรือเห็นแสงไฟเป็นแฉกหลังผ่าตัด ส่งผลให้ขับรถกลางคืนมองไม่ชัดในระยะแรก จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำเลสิก
แม้สายตาจะปกติดีในเวลากลางวัน แต่ตอนขับรถกลางคืนรูม่านตาจะขยายเพื่อรับแสงมากขึ้น ทำให้ความผิดปกติเล็กน้อย เช่น สายตาสั้นหรือเอียงที่ไม่เคยรบกวน กลับส่งผลให้ภาพพร่ามัวหรือเห็นแสงไฟเป็นแฉกได้
อาการขับรถตอนกลางคืนมองไม่ชัดหรือตาพร่ามัว (Glare) จากแสงไฟหน้ารถที่สวนมา อาจเกิดจากปัญหาหลายอย่าง เช่น สายตาเอียงที่ทำให้แสงแตกเป็นแฉก โรคต้อกระจกที่ทำให้เลนส์ตาขุ่นมัวและแสงกระจายผิดปกติ ภาวะตาแห้งที่ส่งผลให้ผิวกระจกตาไม่เรียบเนียนจนแสงหักเหผิดปกติ รวมถึงการใช้เลนส์แว่นตาที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่มีการเคลือบสารกันแสงสะท้อนที่ช่วยลดแสงจ้า