ยุคที่ทุกอย่างอยู่บนหน้าจอ ไม่ว่าจะทำงาน เรียน หรือพักผ่อน ดวงตาของเราต้องรับภาระหนักกว่าที่คิด หากคุณเคยรู้สึกตาแห้ง แสบตา มองไม่ชัด หรือปวดศีรษะหลังจากจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน อาจไม่ใช่แค่อาการล้า แต่คือ “Computer Vision Syndrome” หรือกลุ่มอาการที่เกิดจากการใช้สายตาหน้าจอมากเกินไป บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักอาการนี้ พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษาดวงตาให้ใช้งานได้อย่างยั่งยืนในโลกดิจิทัล

โรค Computer Vision Syndrome (CVS) คือกลุ่มอาการทางตาและการมองเห็นที่เกิดจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อมองจอในระยะใกล้เกินไป (น้อยกว่าครึ่งฟุตหรือประมาณ 6 นิ้ว) อาการจะรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาที่ใช้งานหน้าจอ ซึ่งโรคนี้พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นหากใช้หน้าจอในที่แสงน้อย หรือมีท่านั่งที่ไม่เหมาะสมขณะใช้งาน

ทำความรู้จักและสังเกตอาการต่างๆ ของ Computer Vision Syndrome พร้อมอาการที่พบบ่อย ดังนี้

หลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้สายตากับหน้าจอในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดอาการ Computer Vision Syndrome เช่น

วิธีจัดการหรือป้องกันปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้หน้าจอดิจิทัลมีหลากหลาย แต่โดยทั่วไปสามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลสายตาอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนวิธีการมองหน้าจอ ได้แก่
แพทย์อาจแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาที่หาซื้อได้ตามร้านยา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา และแนะนำให้คุณพยายามกะพริบตาบ่อยขึ้น เพราะเวลาจ้องหน้าจอ เรามักเผลอกะพริบตาน้อยลง การกะพริบตาบ่อยๆ จะช่วยให้มีน้ำตาธรรมชาติ และบรรเทาอาการตาแห้งได้ดีขึ้น นอกจากนี้แพทย์อาจสั่งยาหยอดตาหรือวิธีรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมกับอาการด้วย
แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ทั่วไปอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ควรตรวจสายตาปีละครั้ง และปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อพิจารณาใช้เลนส์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการมองหน้าจอ ซึ่งอาจมีการปรับกำลังเลนส์ สี หรือเคลือบพิเศษ เช่น สารเคลือบตัดแสงสีฟ้า เพื่อเพิ่มความสบายและประสิทธิภาพในการมองเห็น
ฝึกให้ดวงตาและสมองทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น การออกกำลังกายตาเหล่านี้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวของตา การโฟกัส และการประสานงานของดวงตา รวมถึงเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างตาและสมอง การรักษาอาจประกอบด้วยการฝึกในคลินิกควบคู่กับการฝึกที่บ้าน
ปัจจัยสำคัญในการบรรเทาโรค Computer Vision Syndrome (CVS) เกี่ยวข้องกับท่านั่งและการจัดวางอุปกรณ์รอบตัวขณะใช้คอมพิวเตอร์ ได้แก่ การตั้งแสงให้พอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป ใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี วางเอกสารไว้ใกล้มือเพื่อลดการเคลื่อนไหวคอ ปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา และพักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไปไกลประมาณ 6 เมตร เป็นเวลา 20 วินาที
ความสว่างของหน้าจอควรใกล้เคียงกับความสว่างในห้อง คุณอาจต้องปรับความสว่างหน้าจอตามช่วงเวลาของวัน ส่วนความคมชัดประมาณ 60-70% จะทำให้สายตาสบายขึ้น
ลดอาการตาไม่สบายจากแสงสีฟ้าและแสงสะท้อนได้ด้วยการใส่แว่นที่มีเลนส์เคลือบพิเศษ ใช้ฟิลเตอร์กันแสง ปรับจอให้เหมาะสม พร้อมใช้ผ้าม่านบังแสง และเช็ดทำความสะอาดหน้าจอให้สะอาดชัดเจน

ตั้งโต๊ะทำงานสูงประมาณ 66 ซม. และวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ห่างจากตาประมาณ 40-75 ซม. (หรือระยะที่แขนเอื้อมถึงพอดี) โดยให้ส่วนบนของหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย และเอียงหน้าจอประมาณ 10-20 องศา นอกจากนี้ ควรใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี และใช้ที่วางเอกสารแบบปรับได้ โดยวางเอกสารให้ห่างจากตาเท่ากับระยะห่างหน้าจอและใกล้หน้าจอที่สุด เพื่อลดการปรับโฟกัสสายตาบ่อยๆ
เพื่อคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตา ควรปฏิบัติตาม “กฎ 20-20-20” คือ ทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่วัตถุที่อยู่ไกลประมาณ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) นอกจากนี้เมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรลุกจากโต๊ะและสลับไปทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ต้องเพ่งสายตาใกล้ เช่น เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ดวงตาได้พักและผ่อนคลายอย่างแท้จริง
Computer Vision Syndrome (CVS) คืออาการล้าสายตาและปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้หน้าจอดิจิทัลเป็นเวลานาน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต อาการที่พบได้บ่อยคือ ตาแห้ง ปวดตา มองไม่ชัด และปวดหัว การป้องกันและบรรเทาอาการนี้ทำได้โดยการปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม ปรับท่านั่งและระยะห่างจากหน้าจอ รวมถึงพักสายตาเป็นระยะ หากคุณมีอาการหรือกังวลเกี่ยวกับสายตา สามารถเข้ารับบริการตรวจตาและคำปรึกษาที่ โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ (Bangkok Eye Hospital) ซึ่งมีแพทย์ผู้ชำนาญและเทคโนโลยีทันสมัยช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของคุณอย่างครบวงจร
นี่คือคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Computer Vision Syndrome (CVS) เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีป้องกัน รวมถึงการดูแลสุขภาพสายตาจากการใช้งานหน้าจอดิจิทัลอย่างเหมาะสม
ระยะเวลาของอาการ Computer Vision Syndrome ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาที่ใช้หน้าจอ บางคนอาจดีขึ้นทันทีหลังเลิกใช้หน้าจอ ส่วนบางคนอาจมีอาการนานเป็นวันหรือมากกว่า
ช่วยได้จริง โดยแว่นตาพิเศษช่วยลดแสงสะท้อนและความล้าของดวงตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ได้ แต่ควรใช้ควบคู่กับการพักสายตาและปรับสภาพแสงหน้าจอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว Computer Vision Syndrome (CVS) ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายถาวรต่อดวงตาหรือทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร เพราะอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นมักเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากความเมื่อยล้า หรือความเครียดของดวงตา และมักจะดีขึ้นเมื่อมีการพักผ่อนสายตา ปรับพฤติกรรมการใช้งาน และดูแลดวงตาอย่างเหมาะสม